แม้ว่าการระบาดของ COVID-19 จะดีขึ้น แต่ก็ยังมีเวฟใหม่เกิดและกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ ยิ่งในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวเรียกได้ว่าเข้าสู่ช่วงโรคระบาดมากอย่างแท้จริง อีกทั้งก็ยังมีโรคระบาดอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น เช่น โรคฝีดาษลิง ที่ทำให้เรากังวล ในยุคที่ผู้คนระมัดระวังในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ใกล้ชิดผู้อื่น
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราปลอดภัยก็คือการดูแลสุขภาพ ดังนั้นการออกกำลังกายเป็นประจำจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย แต่หลายคนอาจรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะไปออกกำลังกายเพื่อฟิตแอนด์เฟิร์มในยิมเพราะต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกับคนอื่น เราจึงอยากชวนคุณมาออกกำลังกายที่บ้านหลากสไตล์ทำตามได้ง่ายๆ ด้วยตนเองที่บ้าน มาเข้าสู่โหมดฟิตแอนด์เฟิร์มกันเถอะ
1. เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจด้วยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวเป็นจังหวะซ้ำๆ ของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ซึ่งช่วยเผาผลาญแคลอรีและช่วยให้ร่างกายจัดการไขมันได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณลดน้ำหนักและรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดที่ดี
ใครที่อยากเริ่มออกกำลังกายสไตล์นี้ลองดู Bebe Fit Routine ที่ผสมผสานการชกมวยเข้ากับการออกกำลังกายขั้นสูงสุดอย่าง HIIT หรือ TABATA ยิ่งไปกว่านั้น การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่หลากหลายซึ่งคุณสามารถทำตามได้ไม่มีเบื่อ รูทีนการออกกำลังกายนั้นเข้าใจง่ายและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเช่นกัน สำหรับใครที่ชอบเผาผลาญแคลอรีและเต้นไปตามจังหวะเพลงไปพร้อมๆ กัน ลองมาเต้นซุมบ้ากับ Zumba Class ก็จะทำให้สนุกไม่น่าเบื่อค่ะ
2. ทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วยการฝึกด้วยแรงต้าน
การฝึกด้วยแรงต้านช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายในรูปแบบต่างๆ โดยใช้แรงต้านจากน้ำหนักตัวของเราเอง ได้แก่
– วิดพื้น
– ดึงข้อ
– ซิทอัพ
เราแนะนำว่าคุณอาจเพิ่มอุปกรณ์เช่นดัมเบลในรูทีนด้วย นอกจากจะช่วยให้มีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มการใช้พลังงานอีกด้วย ความยากของการออกกำลังกายประเภทนี้คือท่าทางที่ถูกต้อง เราขอแนะนำให้คุณไปเน้นที่การออกกำลังกายแบบมีแรงต้านที่หลากหลายพร้อมรายละเอียดที่ชัดเจนและง่ายต่อการปฏิบัติตาม ลองหาอ่านบทความพร้อมคลิปสั้นๆ แสดงกิจวัตรการออกกำลังกายเฉพาะส่วนของร่างกาย สำหรับผู้ที่ต้องการให้ขาหรือแขนกระชับเพื่อดูเฟิร์มขึ้น
3. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อด้วยการฝึกความยืดหยุ่น
การฝึกความยืดหยุ่นเหมือนโยคะ คือ การยืดกล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นของร่างกาย การออกกำลังกายแบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวร่างกาย บรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม (office syndrome) ที่มักเกิดกับพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งนานๆ
กิจวัตรของการฝึกความยืดหยุ่นอาจดูเหมือนไม่มากเพราะไม่ต้องเคลื่อนไหวเร็วเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายประเภทอื่น แต่การเล่นโยคะ 1 ชั่วโมงสามารถช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรี่ได้อย่างน้อย 100 แคลอรี เพิ่มสมาธิและทำให้จิตใจของคุณปลอดโปร่ง ช่องที่แนะนำสำหรับคนที่อยากฝึกโยคะเองคือ Pordipor Yoga มีคลิปให้เลือกมากมายตามความสนใจ เช่น การฝึกหายใจแบบโยคะ โยคะพื้นฐาน หรือจะเลือกยืดเฉพาะบางบริเวณก็ได้เช่นกัน
นอกจากการออกกำลังกายแล้ว การรับประทานอาหารที่สมดุลซึ่งประกอบด้วยอาหารครบ 5 หมู่ จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกลัวโรคที่จะเกิดขึ้นบ่อยถ้าเราดูแลตัวเองดีๆ ค่ะ