7 วิธีลดความเสี่ยงโรคลมแดดในผู้สูงอายุพร้อมวิธีปฐมพยาบาล

0

โรคลมแดด เกิดจากอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นมากจนร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ทัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากร่างกายของผู้สูงอายุมีความสามารถในการปรับอุณหภูมิได้ลดลง ถ้ามีโรคประจำตัวหรือบางรายไม่สามารถดูแลตนเองได้ อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) เป็นภาวะฉุกเฉินที่เกิดจากอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นมาก จนร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ทัน พบได้มากขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่มีสภาพอากาศร้อนจัด สำหรับเกณฑ์การวินิจฉัยอาการป่วยจากโรคลมแดด มีดังนี้

1. ร่างกายมีอุณหภูมิสูง ตั้งแต่ 40.5 องศาเซลเซียสขึ้นไปแต่ไม่มีเหงื่อ หรือบางรายเหงื่อออกมาแต่ตัวเย็นร่วมกับมีอาการผิดปกติอื่น

2. มีอาการผิดปกติทางสมอง เช่น ภาวะสับสน เพ้อ เวียนศีรษะ ตอบสนองช้า หรือ ชัก

3. อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศร้อน หรือ ออกกำลังกายหนัก

4. กระหายน้ำมาก

ผู้สูงอายุจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคลมแดด เนื่องจากร่างกายของผู้สูงอายุมีความสามารถในการปรับอุณหภูมิได้ลดลง ประกอบกับมักมีโรคประจำตัว หรือบางรายไม่สามารถดูแลตนเองได้ ปกติร่างกายมีการเผาผลาญอาหารและสร้างความร้อนจากภายในตัวตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องมีการระบายความร้อนออกจากร่างกาย เช่น ทางลมหายใจ ทางปัสสาวะ ทางผิวหนังร่วมกับต่อมเหงื่อ เมื่ออยู่บริเวณที่มีอากาศร้อนจัดร่างกายจะระบายความร้อนได้ยาก ทำให้เสียเหงื่อมากขึ้นและร่างกายขาดน้ำมากขึ้น หากไม่ได้รับน้ำทดแทนที่เพียงพอจะเกิดภาวะขาดน้ำรุนแรง อาจเกิดอาการช็อกเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้

วิธีลดความเสี่ยงเป็นโรคลมแดดในผู้สูงอายุ ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่จะทำให้ร่างกายมีความร้อนสูง โดยเฉพาะการทำกิจกรรมกลางแจ้งช่วง 11.00-15.00 น.

2. ควรสวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อนที่ระบายความร้อนได้ดี หลวม ไม่รัดแน่น มีน้ำหนักเบา

3. อยู่ในสถานที่ที่มีพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ

4. อาบน้ำเย็นบ่อยๆ

5. ดื่มน้ำ (น้ำเปล่า น้ำผัก ผลไม้ หรือน้ำเกลือแร่กรณีสูญเสียเหงื่อมาก) ให้เพียงพอ ดื่มน้ำบ่อยๆ ทุกชั่วโมง   

6. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน เนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนจะส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางวันอากาศร้อนจัดเสี่ยงต่อการป่วยจากความร้อนได้

7. ลดการออกกำลังกายหรือทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน

หมั่นสังเกตตัวเอง หากมีอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ คลื่นไส้ หายใจเร็ว ใจสั่น หน้าแดง เหงื่อไม่ค่อยออก เป็นอาการเตือนความเสี่ยงโรคฮีทสโตรก ให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิดเพื่อปฐมพยาบาล สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ต้องทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลงอย่างรวดเร็วที่สุด โดยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้าที่ร่ม อากาศถ่ายเท จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนหงาย คลายเสื้อผ้าผู้ป่วยออก แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็ง ประคบตามข้อพับ รักแร้ ขาหนีบ ใช้พัดลมพัดเพื่อระบายความร้อน หากผู้ป่วยยังมีสติให้ดื่มน้ำเพื่อระบายความร้อน หรือหากหมดสติให้รีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที

คนแข็งแรงทั่วไปจะมีปฏิกิริยาในร่างกายที่ทำให้ทนต่อความร้อนได้ระดับหนึ่ง แต่ในกลุ่มเสี่ยงและเปราะบาง เช่น ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ผู้ป่วย ผู้สูงอายุและเด็ก คนป่วยโรคเรื้อรัง จะมีความทนต่อความร้อนได้น้อยกว่า จึงต้องระวังให้มาก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *