ศักยภาพของไฮโดรเจน (pH) หมายถึงระดับความเป็นกรดของสาร ความเป็นกรดเกี่ยวข้องกับผิวของคุณอย่างไร จริงๆ แล้วการทำความเข้าใจถึงค่า pH ในผิว เป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพผิวโดยรวมของคุณ

มาทำความเข้าใจกันเล็กน้อยเกี่ยวกับมาตราส่วน pH 

          ระดับ pH มีตั้งแต่ 1 ถึง 14 โดยที่ 7 ถือว่า “เป็นกลาง” ตัวเลขด้านล่างเป็นกรด ในขณะที่ระดับบนถือว่าเป็นด่างหรือไม่เป็นกรด คุณอาจจะแปลกใจที่รู้ว่าค่า pH ของผิวที่แข็งแรงนั้นอยู่ในด้านที่เป็นกรดมากกว่า ด้วยความเป็นกรดที่มากขึ้น ผิวของคุณสามารถต่อสู้กับจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายและทำลายอนุมูลอิสระที่อาจเพิ่มกระบวนการชราของผิว อย่างไรก็ตาม การปรับค่า pH ของผิวอาจเป็นเรื่องยากเล็กน้อย คุณจะต้องรักษาระดับความเป็นกรดของผิวโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายได้อย่างไรได้บ้างไปดูกัน

ผิวในระดับ pH

          ให้คุณจำไว้ว่า pH ที่เป็นกลางคือ 7 โดยที่สิ่งใดที่สูงกว่าจะเป็นด่าง และสิ่งใดที่ต่ำกว่าจะเป็นกรด สำหรับผิว ระดับ pH มักจะกว้างกว่าเล็กน้อย โดยมีความเป็นกรดอยู่ระหว่าง 4 ถึง 7 ผลการศึกษาในปี 2006 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Cosmetic ScienceTrusted Source รายงานว่าระดับ pH ในอุดมคตินั้นต่ำกว่า 5 ทารกแรกเกิดมีระดับ pH ค่อนข้างสูงทั่วผิวหนัง แต่เมื่อทารกโตขึ้น ระดับ pH ของทารกจะลดลงอย่างรวดเร็ว ทารกแรกเกิดโดยเฉลี่ยมีค่า pH ของผิวหนังประมาณ 7 ซึ่งเปรียบเทียบกับค่า pH เฉลี่ยของผิวในผู้ใหญ่ที่ 5.7 ค่า pH ของผิวจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ของร่างกายคุณ บริเวณที่สัมผัสน้อยกว่า เช่น ก้น รักแร้ และบริเวณอวัยวะเพศ มักจะรักษาความเป็นกรดตามธรรมชาติ ซึ่งไม่เหมือนกับใบหน้า หน้าอก และมือของคุณ ซึ่งมักจะมีความเป็นด่างมากกว่า ความแตกต่างดังกล่าวเกิดจากการที่ผิวส่วนหลังสัมผัสกับองค์ประกอบต่างๆ มากขึ้น

ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อค่า pH ของผิวหนัง ได้แก่

– สิว

– มลพิษทางอากาศ 

– ผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย 

– การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล 

– โดยมีระดับความชื้นต่างกัน 

– เครื่องสำอาง 

– ผงซักฟอก

– สบู่และเจลต้านเชื้อแบคทีเรีย 

– ความมัน / ความชุ่มชื้นของผิว 

– เหงื่อ 

– น้ำประปา

– ตากแดดมากเกินไป

– ล้างผิวบ่อยเกินไป

วิธีตรวจสอบค่า pH ของผิวคุณ

มีแผ่นทดสอบที่บ้านที่ตรวจค่า pH ที่บ้าน คุณอาจระบุค่า pH ของผิวได้ด้วยตัวเอง จะมาในรูปแบบของแถบกระดาษที่ใช้กับผิวของคุณและวัด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้ซื้อชุดค่า pH ที่เหมาะสำหรับผิวของคุณ การทดสอบน้ำลายและปัสสาวะสามารถวัดระดับ pH โดยรวมของร่างกายคุณได้ แต่การทดสอบเหล่านี้จะช่วยบอกการวัดค่า pH ของผิวคุณได้เพียงเล็กน้อย

          แต่ถ้าผ่านแพทย์ผิวหนัง แพทย์ผิวหนังอาจเสนอการทดสอบ pH ของเหลว นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเรื่องเครื่องสำอางและการดูแลผิวอื่นๆ ที่คุณสนใจได้อีกด้วย การทราบแนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับระดับ pH ของผิวจะทำให้เราผ่านการสังเกตอย่างระมัดระวัง ผิวที่มีเนื้อเนียนนุ่มไม่มีจุดด่างแห้งถือว่าสมดุล การระคายเคือง สิว รอยแดง และจุดแห้งอาจเป็นสัญญาณของค่า pH ของผิวที่สูงซึ่งเอนเอียงไปสู่ความเป็นด่างมากขึ้น

วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพผิวและผิวที่สมดุล Ph คืออะไร

– ล้างด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน ไม่ว่าอ่อนโยนสำหรับคุณหมายถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรพิเศษหรือทำความสะอาดผิวด้วยสิ่งของจากธรรมชาติหรือจากพืช DIY ก็ตาม อย่าลืมว่าน้ำก็ส่งผลต่อผิวของคุณเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นเวลาชั่วครู่ก็ตาม ยิ่งน้ำยาทำความสะอาดผิวหน้าของคุณเป็นด่างมากเท่าไร คุณก็ยิ่งมีแนวโน้มที่ระคายเคืองผิวหนังมากขึ้นเท่านั้น น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นกรดมากขึ้นอาจช่วยต่อสู้กับสิว ซึ่งอาจชัดเจนขึ้นเมื่อระดับ pH ของคุณต่ำกว่า 6 ในทางกลับกัน ส่วนผสมในการดูแลผิวที่เป็นด่างมากขึ้นสามารถช่วยรักษาสุขภาพผิวในสภาวะต่างๆ เช่น กลากและโรคสะเก็ดเงิน

          – ใช้โทนเนอร์บำรุงผิว โทนเนอร์ผิวสามารถช่วยปรับสภาพความเป็นด่างที่เหลืออยู่ซึ่งส่งผลเสียต่อระดับ pH ที่เหมาะสมของผิวคุณ

          – ให้ความชุ่มชื้น ตามด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ มีมอยส์เจอร์ไรซิ่งออยล์ โลชั่น เจล และครีมเข้มข้นให้คุณเลือก คุณอาจต้องการปรับมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับฤดูกาลด้วย

          – ขัดผิว การขัดผิวบ่อยสัปดาห์ละครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยนอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับกิจวัตรการดูแลผิวทั่วไปของคุณ การรักษาสุขภาพผิวให้แข็งแรงอาจช่วยได้ด้วยกรดจากพืช แต่ถ้าต้อบการใช้ผลิตภัณฑ์แบบสารเคมี ให้ลองพูดคุยกับแพทย์ผิวหนังเกี่ยวกับตัวเลือกการดูแลผิวเหล่านี้เพื่อดูว่าสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยปรับสภาพผิวของคุณได้หรือไม่

ค่า pH ของผิวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสุขภาพผิวโดยรวม การดูแลผิวด้วยน้ำยาทำความสะอาดและมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับสภาพผิวของคุณ ช่วยสร้างสมดุลของน้ำมันที่ผิวของคุณต้องการเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกวันเป็นสิ่งที่ต้องมีเพื่อปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสงยูวีและอนุภาคอื่นๆ ช่วยลดข้อกังวลในการดูแลผิวโดยเฉพาะ เช่น สิวหรือโรคผิวหนัง ควรปรึกษากับแพทย์ผิวหนัง เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวที่แฝงอยู่และช่วยให้คุณมีสุขภาพผิวที่ดีได้ค่ะ