ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายรูปแบบไหนก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีด้วยกันทั้งนั้น แต่สำหรับคนทำงานหรือไม่มีเวลาแล้วกว่าจะเลิกงานมาก็คงเป็นเรื่องยากที่จะให้ไปเข้าคลาสให้ทันเพื่อนๆ ดังนั้น “การวิ่ง” จึงเป็นการออกกำลังกายทางเลือกยอดนิยมมากที่สุดของคนยุคนี้ เพราะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากและลดน้ำหนักได้เหมือนกัน
แต่ยังมีอีก 4 เหตุผลที่จะบอกเราว่า ทำไมการวิ่งจึงเป็นทางเลือกดีๆ ของคนอยากลดน้ำหนัก ไปดูกัน!
ถึงจะพักแต่การวิ่งก็ยังทำงานอยู่
หัวข้อดูงงมั้ย? แต่ที่เราหมายถึง การวิ่งเป็นการออกกำลังกายแบบ High-intensity จะถูกกระตุ้นมากกว่าขึ้นหลังจากการเบิร์น เมื่อเปรียบเทียบกับกาออกกำลังกายแบบ low-intensity (ง่ายๆ อย่างการเดิน) จะพบว่า การวิ่งเบิร์นได้ดีกว่ามาก มีการศึกษาค้นพบว่าเมื่อเปรียบเทียบในระยะยาวของการวิ่งและเดิน แคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญของการวิ่งจะนำไปสู่การลดน้ำหนักถึง 90% มากกว่าแคลอรีที่เผาผลาญจากการเดิน
ใช้เวลาเท่ากันแต่เบิร์นมากกว่า
จริงอยู่ว่า หากเราวิ่งในระยะที่เท่ากันกับการเดินนั้นจะได้ตัวเลขการเบิร์นเท่ากัน – อ้างอิง Running v. Walking แต่เมื่อลองดูที่ความเร็วแล้วจะพบว่าแคลอรี่ที่ถูกเบิร์นออกไปนั้น “การวิ่ง” ทำได้ดีกว่าเกือบเท่าตัว!
สะดวกกว่า
การวิ่งไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์อะไรเลย แค่เพียงเพื่อนๆ เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสม ระบายอากาศได้ดี และรองเท้าวิ่งที่จะสามารถซัพพอร์ทการวิ่งและน้ำหนัก ที่เหลือก็แค่ลองเลือกสถานที่การวิ่ง บางคนชอบแบบเอาท์ไซท์ก็จัดไปหรือถนัดวิ่งบนลู่วิ่งก็ลองหายิมใกล้ที่ทำงานได้ แถมค่าใช้จ่ายก็น้อยกว่าด้วย
เพิ่มความท้าทายได้เสมอ
บางคนอาจคิดว่าการวิ่งเป็นเรื่องน่าเบื่อ อาจจะฟิตได้แค่สักเดือนสองเดือนแต่หลังจากนั้นกลับพบว่าไม่อยากวิ่งเพราะมันซ้ำเดิม แต่ความจริงแล้วถ้าเพื่อนๆ ก้าวผ่านช่วงที่รู้สึกเบื่อไปได้การวิ่งจะกลายเป็นชีวิตประจำวันที่ใช้เวลาน้อยและสะดวก สำหรับวิธีการเพิ่มความท้าทายนั้น ลองตามไปที่นี่กันได้
- TUSH-TONING INTERVAL WORKOUT วิ่งสลับรับเบิร์น 400 แคล ใน 40 นาที!
- ความท้าทายใหม่ “วิ่ง” ตามค่า BPM เพลง ยังไงมาดู!
- ตารางเบิร์นลดอ้วนบนลู่วิ่ง 45 นาที พร้อมวิธีหายใจเพื่อความอึด
- ทริควิ่ง 45 นาทีให้เบิร์นได้มากกว่า 380 แคล!
และนี่ก็คือข้อดีของการวิ่งค่ะ เพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่เคยลองและอาจมีอคตินิดๆ กับการวิ่ง ลองทบทวนดูใหม่นะคะ การวิ่งมีดีมากกว่าที่เราคิดค่ะ 🙂
