ปล่อยลูกใช้มือถือ-แท็บเล็ตนานๆ เสี่ยงสารพัดปัญหาดวงตา
อย่าปล่อยให้ลูกน้อยวัยซนอยู่กับหน้าจอนานๆ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
อย่าปล่อยให้ลูกน้อยวัยซนอยู่กับหน้าจอนานๆ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้พ่อแม่จำนนไม่น้อยเลี้ยงลูกด้วยการ “ใช้จอ” ไม่ว่าจะเป็น มือถือ แท็บเล็ต หรือโทรทัศน์ โดยหารู้ไม่ว่าการใช้สื่อผ่านจอในการเลี้ยงเด็กเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเลย ไม่ได้ช่วยในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้แย่ลง
ยุคนี้เป็นยุคของโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เห็นคนนั่งก้มหน้าใช้มือถือหรือแท็บเล็ตกันทั้งนั้น ที่น่าเป็นห่วงคือ ไม่เฉพาะแต่ผู้ใหญ่เท่านั้น พ่อแม่มือใหม่หลายบ้านยังใช้มือถือหรือแท็บเล็ตกับเจ้าตัวเล็ก เสมือนเป็นของเล่นดึงความสนใจให้เบบี๋อยู่นิ่งไม่งอแง โดยหารู้ไม่ว่าเป็นอันตรายต่อพัฒนาการของเด็ก!
“โรคสมาธิสั้น” เป็นโรคทางจิตเวชที่พบได้มาก ผลสำรวจของกรมสุขภาพจิต ปี 2559 พบถึงร้อยละ 5.4 คาดว่ามีเด็กไทยอายุ 6-15 ปี ซึ่งทั่วประเทศมี 7 ล้านกว่าคน เป็นโรคนี้ประมาณ 420,000 คน หรือพบได้ 2-3 คนต่อห้องเรียนที่มีเด็ก 40-50 คน ที่น่าตกใจ คือ เด็กเล็กเป็นโรค “ไฮเปอร์เทียม” มากขึ้น
TIME นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกาได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับการใช้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนของเด็กไว้ได้น่าสนใจเชียวค่ะ
คุณพ่อคุณแม่ลองย้อนกลับไปสมัยที่ยังเป็นเด็กเวลาว่างเราเล่นอะไรกันบ้าง ส่วนใหญ่ก็ใช้เวลาเอาท์ดอร์ออกไปเล่นนอกบ้านเสียส่วนมาก หรือบางคนอาจจะไม่ชอบเล่นข้างนอกก็อาจจะหากิจกรรมอื่นๆ ทำในบ้าน เช่น เล่นเกมตัวต่อ อ่านหนังสือ หรือทำงานประดิษฐ์ ฯลฯ