ในหนึ่งวันทำงานคุณต้องเจอกับเรื่องหนักหนา ทั้งมากและน้อยปะปนกันไป แน่นอนว่าในวันสบายๆ ที่งานไม่ยุ่ง คุณอาจพบกับคุณภาพชีวิตหลังเลิกงานด้วยการไปออกกำลังกายตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ แต่ถ้าวันไหน เพื่อนร่วมงานแย่ หัวหน้าไม่พอใจ หรือทำงานออกมาได้ไม่ดี กำลังใจหด… จะเอากำลังใจจากไหนไปออกกำลังกายต่อได้อีก?
มาดูกันค่ะนี่คือวิธีที่จะช่วยบูสให้คุณพาตัวเองไปออกกำลังกายได้ทุกวัน แม้วัน (งาน) มามาก!
แพ็คอุปกรณ์ออกกำลังกายตั้งแต่ตอนกลางคืนเลย
อย่ารอจนถึงเช้าที่วุ่นวายเพื่อเก็บเสื้อผ้าออกกำลังกาย คุณอาจลืมสิ่งที่คุณต้องการเมื่อรีบออกจากประตู หากตอนเช้ามีความวุ่นวายเป็นพิเศษ คุณอาจตัดสินใจว่า “ไม่เอาแล้ว ยากไปอะ” โดยให้ข้ออ้างกับตัวเองที่จะไม่ออกกำลังกายได้
ยังไงก็อย่าลืมมาร์กในปฏิทินว่า “ไปออกกำลังกาย”
วันนี้มีประชุมเช้า บ่ายมีคุยกับลูกค้า เย็นมาต้องเคลียร์สิ่งที่ทำไว้ตอนเช้า ตารางแน่นไม่ไหว แต่เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญในชีวิต ทำให้การออกกำลังกายมีความสำคัญเช่นกันและใส่ไว้ในปฏิทิน จากนั้นตั้งการเตือนความจำบนโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ด้วย
แพ็คของว่าง
มาเผชิญหน้ากัน คุณกำลังออกกำลังกายในขณะที่คุณมุ่งหน้าเข้าสู่ชั่วโมงอาหารเย็น บางครั้งความหิวทางร่างกายแบบเดิมๆ อาจทำให้คุณตัดสินใจเลิกออกกำลังกาย ความหิวทำให้เสียสมาธิและใช้พลังงานด้วย เตรียมของว่างเล็กๆ น้อยๆ ที่ย่อยง่ายซึ่งประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ (เช่น แอปเปิ้ลว) แล้วกินก่อนออกกำลังกายประมาณ 45 นาที
เปลี่ยนชุดก่อนเลิกงาน
อีกครั้งปัจจัยนี้ในความคิดของคุณ หากคุณเปลี่ยนชุดออกกำลังกายก่อนออกจากงาน คุณจะมีแนวโน้มที่จะออกกำลังกายมากขึ้นและมีโอกาสน้อยลงที่จะถอยออกมาในนาทีสุดท้ายหรือหาข้ออ้างในการข้ามกิจกรรมนี้นะคะ
เลิกงาน!!
เคลียร์ใจค่า หากจิตใจของคุณหมกมุ่นอยู่กับการเคลื่อนไหว คุณจะไม่สามารถเดินออกไปและคิดถึงหน้าที่การงานได้ หากคุณกำลังเข้าสู่ชั้นฟิตเนส ให้สร้างเพลย์ลิสต์ที่กระตุ้นคุณและดึงความคิดของคุณไปสู่ที่ที่ดี อย่าลืมเลือกกิจกรรมที่คุณชอบ ท้ายที่สุดแล้ว เวลาออกกำลังกายของคุณไม่ได้ดีแค่ต่อร่างกายเท่านั้น นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นการพักสมอง เป็นโอกาสในการปลดปล่อยความกังวลและความเครียดในแต่ละวันของคุณด้วยนะ
ลองนำทริคเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของคุณก็ได้ค่ะ สดสวยเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ