บิ๊วท์หุ่นปังกับเคล็ดลับการออกกำลังกายในน้ำตามสเต็ปนี้!

0

เพราะการว่ายน้ำอย่างสบายจะเผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณ 500-600 แคลอรี่ในหนึ่งชั่วโมง เหตุผลและที่มาที่ไปก็คือ น้ำมีความหนาแน่นมากกว่าอากาศถึง 800 เท่า ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการผลัก เตะ และดึงทุกครั้งจึงเหมือนกับการออกกำลังกายแบบมีแรงต้านทั่วทั้งร่างกาย การว่ายน้ำดีต่อไหล่ แขน ลำตัว ก้น และสะโพก

แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักจริง ๆ ด้วยการออกกำลังกายอย่าง “ว่ายน้ำ” ปีนี้ รับรองเลยว่าเทรนด์มาแน่! พวกเธอต้องเลือกใช้วิธีเหล่านี้เพื่อให้การว่ายน้ำลดน้ำหนักปังที่สุด

1. ว่ายน้ำสี่ถึงห้าวันต่อสัปดาห์ หากต้องการลดน้ำหนัก ยิ่งคุณออกกำลังกายมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น สิ่งนี้ใช้ไม่ว่าคุณจะวิ่งจ๊อกกิ้ง เดิน ใช้อุปกรณ์คาร์ดิโอ หรือว่ายน้ำ เพราะความถี่ในการว่ายน้ำเพื่อลดน้ำหนักจะเหมือนกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออื่นๆ ดังนั้นให้ทำ 4-5 วันต่อสัปดาห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

2. เริ่มแบบช้าๆ เริ่มต้นด้วยการว่ายน้ำ 15 ถึง 20 นาทีวันเว้นวัน จากนั้นค่อยๆ เพิ่มเป็น 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับระดับความฟิตของคุณ หากคุณเริ่มกิจวัตรการว่ายน้ำใหม่โดยใช้ความเข้มข้นมากเกินไป อาการเจ็บกล้ามเนื้อและความเมื่อยล้าอาจทำให้คุณยอมแพ้ได้

3. สลับว่ายน้ำกับแอโรบิกในน้ำ คุณไม่จำเป็นต้องว่ายน้ำทุกวันเพื่อดูผลลัพธ์ เข้าคลาสแอโรบิกในน้ำในวันหยุดของคุณ นี่เป็นการคลายเครียดที่ดีเยี่ยมเพื่อให้มีความกระฉับกระเฉงในช่วงวันที่ต้องพักฟื้น

4. ว่ายน้ำโดยใช้ทุ่น หากคุณไม่ใช่นักว่ายน้ำที่แข็งแรง ให้ว่ายน้ำเป็นรอบในสระโดยใช้ห่วงยาง สเก็ตบอร์ด หรือเสื้อชูชีพ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณลอยตัวได้ในขณะที่คุณใช้แขนและขาเพื่อควบคุมทิศทางของน้ำ

5. การใช้ดัมเบลน้ำ หากคุณกำลังว่ายน้ำเพื่อลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วน ให้ทำท่าไบเซปขดโดยใช้ดัมเบลน้ำระหว่างรอบ น้ำสร้างแรงต้านซึ่งสามารถช่วยสร้างความแข็งแกร่งและความอดทนได้

ที่สำคัญเลยนะอย่าลืมปรับอาหารการกินด้วย เพราะโปรแกรมลดน้ำหนัก คุณจะต้องเผาผลาญแคลอรี่มากกว่าที่รับประทานเข้าไป และการว่ายน้ำก็ไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นเพื่อให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรปรับเปลี่ยนอาหารนะคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *