หลังจากที่คนให้ความสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น จึงเห็นได้ชัดเจนว่า “น้ำหนัก” เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญ บางคนที่ต้องลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพของพวกเขา ในขณะที่คนอื่นๆ อาจต้องการลดน้ำหนักด้วยเหตุผลด้านความงาม เราเข้าใจดีว่าน้ำหนักของคุณแตกต่างจากระดับคอเลสเตอรอลหรือความดันโลหิตในบางแง่มุม เพราะคุณไม่สามารถดูได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างไรเมื่อมองจากคนอื่น คนจำนวนมากได้รับคำแนะนำและทำตามในวิธีการของการลดน้ำหนักอย่างได้ผลแบบทางลัด หรือเร็วกว่าปกติ แต่อีกหลายคนมักไม่ได้ทำมันในแง่ของความยั่งยืนถาวร
ทั้งที่จริงแล้ว การลดน้ำหนักนั้นเป็นเรื่องของความยั่งยืน และการทำมันอย่างต่อเนื่องในระยะยาว มากกว่าการเน้นไปที่ผลลัพธ์ระยะสั้น
ปริมาณน้ำหนักที่ลดลงที่จำเป็นต่อการพัฒนาสุขภาพของคุณอาจน้อยกว่าที่คุณต้องการลดมาก เมื่อคุณพิจารณาถึงวิธีการประเมินน้ำหนักของคุณ
เห็นว่าสุขภาพของคุณสามารถดีขึ้นได้อย่างมากโดยการลดน้ำหนัก 5-10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักเริ่มต้น ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหยุดอยู่แค่นั้น แต่หมายความว่าเป้าหมายเริ่มต้นในการลดน้ำหนักตามเปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักเริ่มต้นนั้นเป็นไปได้จริงและมีคุณค่า ต่อไปนี้เป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรตระหนักรู้เมื่อต้องลดน้ำหนัก
ตั้งเป้าหมายให้ตรงประเด็นและถูกต้อง
การตั้งเป้าหมายที่ถูกต้องเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ คนส่วนใหญ่ที่พยายามลดน้ำหนักมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายเดียวนั่นคือการลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่มีประสิทธิผลมากที่สุดที่ควรมุ่งเน้นคือการเปลี่ยนแปลงด้านอาหารและกิจกรรมทางกายที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักในระยะยาว ผู้จัดการน้ำหนักที่ประสบความสำเร็จคือผู้ที่เลือกเป้าหมายที่สามารถจัดการได้ครั้งละสองหรือสามเป้าหมาย
เน้นที่ก้าวเล็กๆ
เป้าหมายต่อเนื่องที่ทำให้คุณก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวเล็ก ๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการไปถึงจุดสำเร็จ
ให้รางวัลตัวเองด้วย
รางวัลเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้รับจากการบรรลุเป้าหมายเล็กๆ บ่อยๆ จะมีประสิทธิภาพมากกว่ารางวัลใหญ่ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างยาวนานและยากลำบาก
การชั่งน้ำหนักอย่างได้ผล
แม้ว่าคุณอาจต้องการหรือไม่ต้องการชั่งน้ำหนักตัวเองบ่อยๆ ในขณะที่กำลังลดน้ำหนัก การตรวจสอบน้ำหนักของคุณเป็นประจำจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณคงน้ำหนักที่ลดลงได้ เมื่อเก็บบันทึกน้ำหนักของคุณ กราฟอาจให้ข้อมูลมากกว่ารายการน้ำหนักของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อชั่งน้ำหนักตัวเองและเก็บกราฟหรือตารางน้ำหนักไว้ อย่าลืมว่าการรับประทานอาหารและรูปแบบการออกกำลังกายในหนึ่งวันจะไม่ส่งผลต่อน้ำหนักของคุณในวันถัดไป น้ำหนักของวันนี้ไม่ใช่ตัวชี้วัดที่แท้จริงว่าคุณทำตามโปรแกรมเมื่อวานได้ดีแค่ไหน เพราะน้ำหนักน้ำในร่างกายของคุณจะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน และการเปลี่ยนแปลงของน้ำมักเป็นผลมาจากสิ่งต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความพยายามในการควบคุมน้ำหนักของคุณ
กินอย่างช้าๆ
การเปลี่ยนวิธีการกินจะทำให้กินน้อยลงโดยไม่รู้สึกขาด สมองของคุณต้องใช้เวลา 15 นาทีขึ้นไปในการรับข้อความว่าคุณอิ่มแล้ว การกินช้าๆ จะช่วยให้รู้สึกอิ่ม การรับประทานผักและผลไม้มาก ๆ จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มขึ้น
นอกจากนี้ เคล็ดลับอีกประการหนึ่งคือการใช้จานที่เล็กลงเพื่อไม่ให้ปริมาณที่พอเหมาะดูเล็กเกินไป การเปลี่ยนตารางการรับประทานอาหารหรือกำหนดตารางการรับประทานอาหารอาจมีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมักจะข้ามหรือเลื่อนการรับประทานอาหารและรับประทานมากเกินไปในภายหลัง
