เวลาที่เราพูดเรื่องการลดน้ำหนัก จริงอยู่ว่าเราเน้นไปที่สเกลของน้ำหนักตัว สัดส่วน แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้ามไปนั่นคือ “คอเลสเตอรอล”
คอเลสเตอรอลคืออะไรและส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?
ตับผลิตคอเลสเตอรอลตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารไขมันที่ช่วยให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนและย่อยอาหารที่มีไขมัน นอกจากนี้ยังมีคอเลสเตอรอลในอาหารจากสัตว์ เช่น ไข่และเนื้อสัตว์ ร่างกายไม่ต้องการคอเลสเตอรอลจากอาหาร และสามารถผลิตคอเลสเตอรอลได้ตามต้องการตามธรรมชาติ
พูดง่ายๆ ก็คือ คอเลสเตอรอลสร้างได้เองและไม่ต้องการรับการเติมจากภายนอก
โดยคอเลสเตอรอลจะวัดคอเลสเตอรอล 2 ประเภท ตามนี้
- ไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL): คอเลสเตอรอลชนิดนี้เป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นชนิดที่ “ไม่ดี” ระดับ LDL ที่สูงสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด หลอดเลือดอุดตัน และปัญหาสุขภาพหัวใจอื่นๆ
- ไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL): คอเลสเตอรอลที่ “ดี” นี้สามารถช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลและนำกลับไปยังตับได้ ระดับ HDL ที่สูงขึ้นอาจลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
นานแค่ไหนกว่าจะลดได้?
ที่จริงไม่ได้มีช่วงเวลากำหนดตายตัวนะคะ และก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย แต่ที่แน่ๆ คือคอเลสเตอรอลจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ไม่ใช่อย่างกะทันหัน หลังจากใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีขึ้นสองสามวัน ไม่มีช่วงเวลาที่กำหนดซึ่งรับประกันว่าโคเลสเตอรอลจะลดลง แต่สำหรับยาลดคอเลสเตอรอลมักจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน LDL ภายใน 6 ถึง 8 สัปดาห์ การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตจะเปลี่ยนระดับคอเลสเตอรอลภายในไม่กี่สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม อาจใช้เวลานานกว่าปกติ ประมาณ 3 เดือน1
แล้วระดับที่แย่ ที่ดี แบ่งยังไง?
- คอเลสเตอรอลรวม: น้อยกว่า 200 mg/dL
- LDL คอเลสเตอรอล “ไม่ดี”: น้อยกว่า 100 mg/dL
- HDL คอเลสเตอรอล “ดี”: สูงกว่า 60 mg/dL
- ไตรกลีเซอไรด์: น้อยกว่า 150 mg/dL
แน่นอนว่า ถ้าจะถามว่า แล้วจะลดต้องทำอย่างไรบ้าง โดยทั่วไปแล้วหากเราลดน้ำหนักเป็นไปได้ว่าคอเลสเตอรอลอาจลดตามไปด้วย ดังนั้น หลักการโดยทั่วไปแล้ว ควรปรับปรุงวิถีชีวิตใหม่ เลือกกินอาหารเพื่อสุขภาพและออกกำลังกายค่ะ
