เราเชื่อกันอยู่เสมอว่า เมื่อเราต้องการลดน้ำหนัก “การออกกำลังกาย” มักเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงวิธีการมากที่สุดรองจากการวางแผนในเรื่องของการกิน
ก็นั่นแหละนะ… ที่เขาว่ากันว่า มันคือ 30% ที่เหลือนอกเหนือจากแผนการกินควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายการลดน้ำหนักได้ดีขึ้น
แต่ว่านั่นจะเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์หรือไม่? มาลองคิดตามกันไปกับเรื่องราวในบทความนี้กันค่ะ
ประโยชน์ของการออกกำลังกายมีจริง และเรื่องราวเกี่ยวกับคนที่ลดน้ำหนักได้มหาศาลจากการวิ่งบนลู่วิ่งมีมากมาย แต่หลักฐานส่วนใหญ่บอกเล่าเรื่องราวที่น่าประทับใจน้อยกว่านั้นก็มีนะคะ
พิจารณาการทบทวนการศึกษาวิจัยเรื่องการแทรกแซงการออกกำลังกายซึ่งตีพิมพ์ในปี 2001 พบว่าหลังจาก 20 สัปดาห์ น้ำหนักลดลงน้อยกว่าที่คาดไว้ และ “ปริมาณของรายจ่ายด้านพลังงานในการออกกำลังกายไม่มีความสัมพันธ์กับการลดน้ำหนักในการศึกษาระยะยาวเหล่านี้”1
เพื่อสำรวจผลกระทบของการออกกำลังกายที่มากขึ้นต่อน้ำหนัก นักวิจัยได้ติดตามทุกคนตั้งแต่ผู้ที่ฝึกวิ่งมาราธอน สตรีที่มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนหลังวัยหมดประจำเดือนที่เพิ่มการออกกำลังกายผ่านการวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือการฝึกส่วนตัว คนส่วนใหญ่ในการศึกษาเหล่านี้มักจะลดน้ำหนักได้ดีที่สุดเพียงไม่กี่กิโลกรัมเท่ารั้น แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดซึ่งการรับประทานอาหารของพวกเขาคงที่2
การวิเคราะห์ข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งพิจารณาการศึกษาเรื่องการออกกำลังกายจำนวนมาก ได้ข้อสรุปที่ในทำนองเดียวกันเกี่ยวกับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก การทบทวน Cochrane ของหลักฐานที่ดีที่สุดที่มีอยู่ทั้งหมดเกี่ยวกับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก พบว่าการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวนำไปสู่การลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เหมือนกันสำหรับบทวิจารณ์อื่นที่เผยแพร่ในปี 1999 เมื่อนานมาแล้ว3
เราคิดถึงการลดน้ำหนักในรูปแบบง่ายๆ ที่เรียกว่า “แคลอรี่เข้า แคลอรี่ออก” มานานแล้ว ในการศึกษาที่ได้รับการอ้างถึงมากในปี 1958 นักวิจัย Max Wishnofsky ได้สรุปกฎที่หลายองค์กรตั้งแต่ Mayo Clinic ไปจนถึง Livestrong ยังคงใช้ในการทำนายการลดน้ำหนักที่ว่า ไขมันมนุษย์หนึ่งปอนด์แทนแคลอรี่ประมาณ 3,500
ดังนั้น การลด 500 แคลอรี่ต่อวันผ่านการรับประทานอาหารหรือออกกำลังกาย ส่งผลให้น้ำหนักลดลงประมาณ 1 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ในทำนองเดียวกัน การเพิ่ม 500 แคลอรี่ต่อวันส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณเท่าเดิม4
ปัจจุบัน นักวิจัยมองว่ากฎนี้เรียบง่ายเกินไป ตอนนี้พวกเขาคิดว่าความสมดุลของพลังงานของมนุษย์เป็น “ระบบที่มีพลวัตและปรับเปลี่ยนได้” ดังที่การศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งอธิบายไว้ เมื่อคุณเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบหนึ่ง เช่น การลดจำนวนแคลอรี่ที่คุณกินในหนึ่งวันเพื่อลดน้ำหนัก และออกกำลังกายมากกว่าปกติ สิ่งนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งส่งผลต่อจำนวนแคลอรี่ที่คุณใช้ไป และในทางกลับกัน น้ำหนักตัวที่ลดลงด้วย
