“คอตีบ” โรคติดต่อร้ายแรงที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

0

“โรคคอตีบ” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในวัยเด็ก ส่วนผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นได้เช่นกัน ทั้งยังเป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นเฉียบพลันและร้ายแรง โดยผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจะเกิดการตีบตันของทางหายใจ ซึ่งทำให้หายใจล้มเหลว และเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

โรคคอตีบ (Diphtheria) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Corynebacterium diphtheria ติดต่อได้โดยง่ายผ่านทางการไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งหรือสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย ทำให้เกิดการอักเสบขึ้นในช่อง ทางเดินหายใจ ตั้งแต่โพรงจมูกจนถึงทางเดินหายใจส่วนล่าง นับเป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นเฉียบพลันและร้ายแรง ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีแผ่นเยื่อลักษณะเป็น ปื้นสีขาวเทาหรือเหลืองเทาเกิดขึ้นในช่องลำคอจนทำให้มีภาวะทางเดินหายใจตีบแคบและอุดตันได้ อันเป็นที่มาของชื่อโรคคอตีบนั่นเอง

อาการของโรคคอตีบจะแสดงหลังจากการติดเชื้อประมาณ 2 – 5 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูง หนาวสั่น มีน้ำมูก เจ็บคอ คออักเสบ กลืนอาหารลำบาก รู้สึกเจ็บเวลากลืน คอบุ๋ม หอบ หายใจลำบาก หากอาการรุนแรงมากอาจทำให้หายใจไม่ออก จนเป็นอันตรายถึงชีวิต บางรายจะพบอาการต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอโต และพบแผ่นเยื่อสีเทาหรือเหลืองปนเทา ดูคล้ายเศษผ้าสกปรกยึดติดแน่นกับเนื้อเยื่อปกติอยู่บริเวณต่อมทอนซิล คอหอย ลิ้นไก่ และเพดานปาก (แผ่นเยื่อนี้เกิดจากการเจริญเติบโตของกลุ่มเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีการสร้างสารพิษออกมาทำให้เนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบตายลงและซ้อนทับกัน)

ในส่วนของแนวทางการรักษาโรคคอตีบในปัจจุบันทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่ แพทย์จะให้การรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล และอยู่ในห้องแยกโรคเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย เนื่องจากเป็นโรคที่มีอาการรุนแรง แนวทางการรักษาได้แก่ การให้ยาต้านสารพิษของเชื้อและการให้ยาปฏิชีวนะ นอกจากนั้น ต้องเฝ้าระวังเรื่องระบบหายใจอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจมีการอุดทางเดินหายใจได้ และเฝ้าระวังระบบไหลเวียน เนื่องจากโรคคอตีบอาจทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เกิดหัวใจล้มเหลวหรือความดันโลหิตต่ำได้

วิธีป้องกันโรคคอตีบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ สำหรับเด็กให้ฉีดวัคซีนตามโปรแกรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันของกระทรวงสาธารณสุข คือ ให้ฉีดในรูปแบบของวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน (DTP vaccine) ทั้งหมด 5 เข็ม เป็น ระยะ ๆ จากอายุ 2 เดือนจนถึงอายุ 6 ปี โดยเข็มแรกให้ฉีดที่อายุ 2 เดือน, เข็มที่ 2 อายุ 4 เดือน, เข็มที่ 3 อายุ 6 เดือน, เข็มที่ 4 อายุ 18 เดือน และเข็มที่ 5 เมื่ออายุประมาณ 4-6 ปี ต่อจากนั้นให้ฉีดกระตุ้นเมื่ออายุได้ประมาณ 12-16 ปี สำหรับผู้ใหญ่ควรฉีดวัคซีนบาดทะยัก คอตีบ กระตุ้น ทุก ๆ 10 ปี

สำหรับอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนนั้น เด็กที่ได้รับวัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน อาจมีไข้ และร้องกวนได้บางรายอาจมีอาการปวด บวม แดง ร้อนบริเวณที่ฉีดวัคซีน อาการมักจะเริ่มราว 3-4 ชั่วโมงหลังการฉีด และมีอาการนานไม่เกิน 2 วัน ซึ่งวัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (Tdap) ที่ฉีดในเด็กโตและผู้ใหญ่ และวัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก (Td) อาจมีปฏิกิริยาเฉพาะที่ ซึ่งมักไม่รุนแรง โรคคอตีบเป็นโรคร้ายแรง หากเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก และไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้อันตรายถึงชีวิตได้ ผู้ปกครองควรสังเกตอาการของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากมีอาการดังกล่าวข้างต้น ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *