ว่าด้วยเรื่องเสื้อผ้าและการซักผ้า เพื่อลดความเสี่ยงโควิด

0

บางพฤติกรรมที่ปฏิบัติได้ง่ายและรู้กันอยู่แล้ว อาจถูกมองข้ามและไม่ได้ฝึกจนเป็นนิสัย ทั้ง ๆ ที่หากทำเป็นประจำจะสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด ช่วยให้ห่างไกลจากโรคและความเจ็บป่วยได้ เสื้อผ้าและการซักผ้าก็เช่นกัน หลายคนไม่ทราบว่าที่ตัวเองปฏิบัติอยู่เป็นความผิดพลาดและนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ

การสวมเสื้อผ้าซ้ำ การอยู่ในบ้านที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 หรือพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น แออัด หรือพื้นที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ทำให้มีโอกาสที่เชื้อโควิด-19 จะเกาะติดอยู่ตามพื้นผิวเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับได้  โดยเชื้อโควิด-19 สามารถอยู่บนผ้าได้นานถึง 24 ชั่วโมง ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ประเภทของพื้นผิว อุณหภูมิ และความชื้นสัมพันธ์  เป็นต้น เมื่อกลับถึงบ้านจึงควรอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่โดยทันที

ส่วนเสื้อผ้าที่ใช้แล้วให้ซักทำความสะอาด เนื่องจากเชื้อโควิด-19 จะมีกระเปาะหุ้มตัวเอง การซักผ้าด้วยผงซักฟอกจะไปทำลายกระเปาะหุ้มตัวนี้ได้ เมื่อไม่มีกระเปาะหุ้มตัวเชื้อโควิด-19 ก็จะตาย ดังนั้น เชื้อโควิด-19 ที่เกาะตามเสื้อผ้าสามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผงซักฟอก เช่นเดียวกันกับการล้างมือที่ใช้เพียงสบู่ธรรมดาก็กำจัดเชื้อไวรัสบนมือได้

สำหรับการทำความสะอาดเสื้อผ้าที่สวมใส่ เพื่อลดความเสี่ยง โรคโควิด-19 ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้ 

1. เสื้อผ้าหรือหน้ากากผ้าที่ใช้แล้ว หากยังไม่ได้ซักทันทีควรนำไปแขวนผึ่งก่อนใส่ตะกร้าผ้าเพื่อรอการซัก

2. หลีกเลี่ยงการสะบัดเสื้อผ้าในบ้าน เพื่อลดโอกาสฟุ้งกระจายของเชื้อโรค ที่อาจปนเปื้อน 

3. หยิบเสื้อผ้าออกจากตะกร้า โดยทำให้ตัวเราสัมผัสเสื้อผ้าในตะกร้าให้น้อยที่สุด 

4. ใส่น้ำยาซักผ้า และกดปุ่มเครื่องซักผ้าให้ทำงานตามปกติ 

5. ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังจากนำเสื้อผ้าเข้าเครื่องซักผ้า เพื่อป้องกันการนำมือสกปรกมาสัมผัสใบหน้า หรือไปสัมผัสสิ่งอื่น

6. นำไปตากแดดจัด หรือตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเทจนแห้ง แล้วนำมารีดทั้งข้างในและข้างนอกตัวเสื้อ

7. เช็ดทำความสะอาดถังหรือตะกร้าใส่เสื้อผ้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นประจำ

ทั้งนี้ หากไม่มีเครื่องซักผ้าส่วนตัว และจำเป็นต้องใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ให้บริการตามหอพัก แหล่งชุมชนต่าง ๆ สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ บริเวณเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่เป็นจุดสัมผัสร่วมกัน เช่น ช่องใส่ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ปุ่มกดเลือกโปรแกรมซักผ้า ฝาปิดเครื่องซักผ้า เป็นต้น

ผู้ดูแลจึงต้องทำความสะอาดให้บ่อยขึ้นกว่าเดิม หรือทุก ๆ 1 – 2 ชั่วโมง สำหรับผู้ใช้ควรเลือกใช้บริการในช่วงที่คนใช้น้อย  รักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร สวมหน้ากากตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสใบหน้า และเมื่อกลับถึงบ้านให้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ทันที

อีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ ราวตากผ้า โดยผ้าเช็ดมือกับผ้าเช็ดตัว แขวนตากแยกราวส่วนตัวไม่ปะปนกัน รวมถึงควรจัดวางอยู่ในตำแหน่งที่มีลมโกรกและแสงแดดส่องถึง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *