Telemedicine คือ การนําเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์สามารถพูดคุยกันได้แบบ Real-time เช่นเดียวกับการสื่อสารผ่านระบบ VDO conference ที่คู่สนทนาสามารถมองเห็นหน้าและสนทนากันได้ทั้ง 2 ฝ่ายโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่ ง่าย สะดวกสบาย ประหยัดเวลา
ปัจจุบันการรักษาแบบ Telemedicine หรือ “ระบบการแพทย์ทางไกล” ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อระบบสุขภาพของประเทศไทยที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ท้าทายรอบด้าน อาทิ ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล เข้าถึงการรักษายากในพื้นที่ทุรกันดารและห่างไกล การเป็นสังคมสูงวัย รวมทั้งการระบาดของโรคโควิด 19 ประชาชนต้องมีวิถีชีวิต แบบ New normal ส่งผลให้การรักษาแบบ Telemedicine เป็นการอำนวยความสะดวกในเรื่องการเดินทาง ประหยัดเวลาในการรอคิว ลดโอกาสที่ผู้ป่วยต้องออกจากบ้าน ลดจำนวนคนภายในโรงพยาบาลและเพิ่มความปลอดภัยจากโรคโควิด
ปี 2562 กรมการแพทย์ได้มีการปรับการให้บริการโดย รพ.สังกัดกรมการแพทย์ 3 แห่ง ได้แก่ สถาบันผิวหนัง โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) สถาบันทรวงอกได้นำระบบให้คำปรึกษาทางไกล (Tele-Health) มาบริการให้คำปรึกษาในเรื่องการคัดกรองเบาหวานเข้าจอประสาทตา ความผิดปกติของปอด และโรคผิวหนัง การดูแลสุขภาพ อำนวยความสะดวกในการสื่อสารด้วยการส่งสัญญาณเสียงและภาพ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก ช่วยลดการเดินทางและความแออัดในโรงพยาบาล รวม 35 แห่ง โดย กสทช. สนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ในการตรวจร่างกาย ระบบการสื่อสาร
ในช่วงปี 2563 ขณะที่ประเทศไทยเกิดการระบาด Covid-19 กรมการแพทย์ในฐานะหน่วยงานหลักในการให้บริการตรวจรักษาแก่ผู้ป่วย ได้นำเอาระบบการรักษาแบบ Video Call มาใช้โดยผู้ป่วยสมัครใจรับบริการและรับยาทางไปรษณีย์ เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล ลดภาระหน้างาน เพื่อทุ่มเททรัพยากรในการดูแลรักษาผู้ป่วยใน Covid-19 โดยผู้ป่วยหรือญาติสามารถใช้สมาร์ทโฟนในการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ได้ ส่งผลให้สามารถลด ความแออัดในโรงพยาบาลลงได้กว่า 30%
ต่อมาปี 2564-2565 กรมการแพทย์ได้นำระบบการแพทย์ทางไกล (ผ่านแอปพลิเคชัน DMS Telemedicine) มาให้บริการแก่ผู้ป่วยทดแทนระบบ Video Call ในการตรวจรักษา วินิจฉัย ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวของผู้ป่วย รวมถึงการส่งยาให้กับผู้ป่วยที่บ้านทางไปรษณีย์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลและสถาบันสังกัดกรมการแพทย์มีการพัฒนาเป็นระบบการแพทย์ทางไกล แล้วจำนวน 30 แห่ง เช่น รพ.ราชวิถีมีการให้บริการผ่านระบบ 46,502 ครั้ง สถาบันประสาทวิทยา 6,200 ครั้ง
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาขยายขีดความสามารถของ DMS Telemedicine ให้สามารถทำงานเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ IOT เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเชื่อมโยงจัดเก็บข้อมูลประวัติสุขภาพพื้นฐาน ความดัน ชีพจร เพื่อใช้ในการดูแลรักษาสุขภาพของตนเองได้ในเบื้องต้น สามารถรองรับการเชื่อมโยงระบบเพื่อยืนยันตัวตนและระบบการชำระเงินผ่านทางแอปพลิเคชันเป๋าตัง และยังมีแผนการขยายขีดความสามารถของ DMS Telemedicine ให้รองรับการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่ซับซ้อนในลักษณะของสหสาขาวิชาเพื่อให้การวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำระบบ Personal Health Record (PHR) ของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยมีสมุดประวัติสุขภาพส่วนตัว เพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษาสุขภาพ รวมถึงใช้เป็นข้อมูลประวัติส่งต่อการรักษาไปยังโรงพยาบาล เป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนด้านการบริการระบบสุขภาพ ช่วยให้การจัดการปัญหาสุขภาพเกิดประสิทธิภาพ ช่วยบริหารจัดการและสนับสนุนการเชื่อมโยงข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ป่วยได้แบบทันที มีความถูกต้อง รวดเร็ว สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
เรียกว่า DMS Telemedicine เป็นทางเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับยุคที่โควิดอยู่รอบตัวเรา และมีสายพันธุ์ย่อยต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่เรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นการรักษาที่ไร้ข้อจำกัดทั้งเวลาและสถานที่