“กาแฟ” ดื่มอย่างไรไม่ให้ทำร้ายสุขภาพ

0

ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนวัยทำงานคงหนีไม่พ้น “กาแฟ” หลายคนนิยมดื่มกาแฟ เพื่อให้ตื่นตัว สดชื่น ลดความง่วง เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ในช่วงเช้าหรือระหว่างวัน ทำให้มีพฤติกรรมเคยชินในการดื่มกาแฟ จึงอาจเผลอดื่มมากเกินไป ซึ่งการดื่มกาแฟมากเกิน 4 แก้วต่อวันนี้ อาจส่งผลกระทบกับสุขภาพได้

ในเมล็ดกาแฟมีสารคาเฟอีน ซึ่งจะกระตุ้นสารสื่อประสาท ทำให้ร่างกายมีความสุข กระปรี้กระเปร่า ตื่นตัว นี่เองจึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลายคนเสพติดการดื่มกาแฟ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้จำกัดปริมาณคาเฟอีนที่ได้รับในแต่ละวันไม่เกิน 300 – 400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับกาแฟ 3 – 4 แก้ว เพราะหากร่างกายได้รับคาเฟอีนในปริมาณมากเกินไปหรือเรียกว่าการบริโภคคาเฟอีนเกินขนาด (Caffeine Overdose) จะส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนี้

1. ระบบประสาทส่วนกลาง จะทำให้มือสั่น นอนไม่หลับ เกิดความวิตกกังวล ปวดศีรษะ บางครั้งอาจทำให้ชักได้

2. ระบบทางเดินอาหาร จะเพิ่มการหลั่งของกรดและน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ทำให้ปริมาณน้ำย่อยและกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้น ผู้ที่เป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ จึงควรหลีกเลี่ยงกาแฟทุกชนิด รวมทั้งเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ

3. ระบบการไหลเวียนโลหิต คาเฟอีนกระตุ้นหัวใจ เพิ่มการไหลเวียนโลหิต อาจเพิ่มความดันโลหิตชั่วคราว โดยเฉพาะในผู้ที่ปกติไม่บริโภคคาเฟอีน กลุ่มที่มีภาวะความดันโลหิตสูงอยู่เดิม ภาวะความดันโลหิตสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ

4. ระบบทางเดินปัสสาวะ คาเฟอีนลดการดูดน้ำกลับ ตอนผ่านเข้าไปในไต ทำให้ไตขับน้ำออกมาเยอะขึ้น กระตุ้นให้เกิดการปัสสาวะบ่อยขึ้น แคลเซียมซึ่งเป็นสารก่อนิ่วชนิดหนึ่ง จะถูกขับออกมาพร้อมปัสสาวะ ในภาวะที่มีปริมาณผิดปกติ และสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยอาจก่อให้เกิดนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะหรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ การทำงานของไตเสื่อมลง และอาจเป็นอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเกิดภาวะไตวาย

ทั้งนี้ ควรเลือกดื่มเป็นกาแฟดำไม่ใส่นมและน้ำตาล หรือเลือกสั่งแบบหวานน้อย หลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาลและครีมเทียม จะช่วยให้สมองตื่นตัว รู้สึกกระปรี้กระเปร่า โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีน้ำตาลและไขมันสะสมจนอ้วนได้ หรือเมื่อดื่มกาแฟเย็นแล้วควรลดอาหารหวาน มัน และของทอด ในมื้ออาหารหลักลง รวมถึงควรกินผักผลไม้อย่างเพียงพอทุกวัน เนื่องจากในกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟจะมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้น วิตามินซี อี และเบต้าแคโรทีนในผักผลไม้ จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายได้ นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากฤทธิ์ในการขับปัสสาวะของคาเฟอีน

ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ คือ อาจเสี่ยงภาวะกระดูกพรุน เนื่องจากสูญเสียแคลเซียมออกจากร่างกายทางปัสสาวะ จึงควรกินอาหารที่มีแคลเซียม จากแหล่งอื่นร่วมด้วย เช่น นม ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียว เป็นต้น กรณีที่กินแคลเซียมแบบเม็ด ควรกินก่อนดื่มกาแฟ 2 ชั่วโมง เนื่องจากกาแฟมีคาเฟอีนจะไปขัดขวางการดูดซึมของแคลเซียม แต่หากดื่มกาแฟไปแล้วต้องกินแคลเซียมเม็ดหลังจากนั้น 4-6 ชั่วโมง

ที่สำคัญ อย่าลืมกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ รวมถึงลดความเครียด เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและเสริมภูมิคุ้มกันให้สุขภาพดีห่างไกลโรค

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *