ยา “เอติแวน” เป็นยาระงับประสาทซึ่งช่วยลดอาการวิตกกังวลให้น้อยลงได้ แต่ก็มีผู้อ้างว่าการใช้ยานี้ก่อให้เกิดผลข้างเคียง จนนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ซึ่งก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าการใช้ยาชนิดนี้เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตายจริงหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบ มาฝากกัน
เอติแวน
หรือ Ativan เป็นชื่อแบรนด์ของยาลอราซีแพม (Lorazepam) เป็นยาตัวหนึ่งในกลุ่มเบนโซไดอะซีปีน ซึ่งยาในกลุ่มนี้เป็นยาระงับประสาทที่ออกฤทธิ์เสพติดสูง มักใช้เมื่อมีอาการวิตกกังวลขั้นรุนแรงในช่วงสั้นๆ รวมทั้งอาการลมชักและอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นเมื่อเลิกใช้ยาเสพติด และนี่คือ 3 เรื่องที่เพื่อนๆ ควรรู้เกี่ยวกับยาชนิดนี้ค่ะ
1.เป็นยาที่ส่งผลต่อสมอง
เอติแวนจะช่วยให้อาการวิตกกังวลลดน้อยลงในเวลาสั้นๆ โดยแพทย์จะสั่งให้ผู้ป่วยในปริมาณน้อย ครั้งละไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งหากใช้อย่างถูกต้อง ก็จะช่วยจัดการกับความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นได้ แต่หากใช้ไม่เหมาะสม จะทำให้ตัวสั่น พูดไม่ชัด และหากใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะเกิดการดื้อยา จนต้องรับประทานยามากขึ้น และเมื่อยาหมดฤทธิ์แล้ว ผู้ป่วยจะเกิดความกังวล รู้สึกหงุดหงิด และเครียดมากกว่าเดิม
2.ใช้ติดต่อนาน เสี่ยงซึมเศร้า
เอติแวนมีฤทธิ์ไม่ต่างจากแอลกอฮอล์ ซึ่งเมื่อทานมากเกินไปอาจทำให้ “หมดสติ” สมองจะไม่สามารถจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างนั้นได้ และอาจทำให้มีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่ออันตรายได้ เช่นเดียวกับการเมาแล้วขับ ก่ออาชญากรรม และพยายามฆ่าตัวตาย อีกทั้งหากใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดโรคซึมเศร้า ไปจนถึงคิดฆ่าตัวตายได้
3.การปฏิบัติตัวเมื่อต้องหยุดใช้ยาเอติแวน
หากหยุดยาในทันที อาจทำให้ลงแดง เช่น เห็นภาพหลอน เกิดอาการสั่นรุนแรง ปวดหัว ปวดท้อง และนอนไม่หลับ ควรค่อยๆ ลดปริมาณลงทีละน้อย เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และควรอยู่ในความดูแลของแพทย์
แต่ถึงแม้นักวิจัยจะพบว่า การใช้เบนโซไดอะซีปีนกับความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายมีความเกี่ยวข้องกันก็ตาม แต่ทว่ายาเอติแวนไม่ได้เป็นเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้มีการฆ่าตัวตายเกิดขึ้น เพราะการตัดสินใจในการฆ่าตัวตายนั้นเป็นผลมาจากหลายสาเหตุ
