สิวที่หลัง สิวที่หลัง (Back Acne) เกิดขึ้นเมื่อเหงื่อ น้ำมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และแบคทีเรียติดอยู่ในรูขุมขน กระเป๋าเป้ เสื้อที่ขับเหงื่อหรืออุปกรณ์กีฬาสามารถสร้างแรงเสียดทานที่หลังและทำให้สิวที่หลังแย่ลงได้ คุณสามารถรักษาสิวที่หลังได้โดยรักษาความสะอาดของผิวและใช้ครีมบำรุงผิวที่ต่อสู้กับสิว
สิวที่หลังคืออะไร?
สิวที่หลังคือสิวที่ขึ้นที่หลังของคุณ ทำให้เกิดสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มแดง สิวหัวขาว หรือสิวหัวดำ สิวเหล่านี้อาจไม่น่าดู น่ารำคาญ และเจ็บปวด สิวเกิดขึ้นเมื่อน้ำมัน สิ่งสกปรก เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และแบคทีเรียอุดตันรูขุมขน สิวที่หลังมักเกิดขึ้นเมื่อเหงื่อออกใต้เสื้อหรืออุปกรณ์กีฬาระหว่างออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก เสื้อผ้าถูกับผิวหนังที่ขับเหงื่อซึ่งนำไปสู่สิวหรือทำให้อาการแย่ลง การรักษาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์และการรักษาตามใบสั่งแพทย์สามารถกำจัดสิวที่หลังได้ แต่อาจใช้เวลา 2-3 เดือนเพื่อที่ผิวกระจ่างใส
ใครบ้างที่อาจเป็นสิวที่หลัง?
สิวที่หลังใครๆก็เป็นได้ พบได้กับทุกวัยและในคนทุกเพศ แต่พบได้บ่อยในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวที่กำหนดเพศชายเมื่อแรกเกิด
สิวที่หลังพบได้บ่อยแค่ไหน?
สิวเป็นสภาพผิวที่พบบ่อยที่สุ มันสามารถพัฒนาได้ทุกที่ในร่างกายของคุณ สิวมักปรากฏบนใบหน้าของคุณ แต่ก็พบได้ทั่วไปที่หลัง ไหล่ หน้าอก คอ และก้น
สิวที่หลังเกิดจากอะไร?
สิวที่หลังเกิดขึ้นเหมือนสิวประเภทอื่นๆ รูขุมขน (รูเล็กๆ) ของผิวคุณอุดตันด้วยสิ่งสกปรก เซลล์ผิวที่ตายแล้ว เหงื่อ และน้ำมันที่เรียกว่าซีบัม ร่างกายของคุณสร้างไขมันเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังและเส้นผมของคุณแห้งเกินไป หากร่างกายของคุณสร้างซีบัมออกมามากเกินไปหรือคุณไม่ทำความสะอาดผิวอย่างถูกต้อง อาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้ ซึ่งอาจเกิดจาก
– ประวัติครอบครัว: คุณมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวมากขึ้นหากคุณมีประวัติครอบครัวเป็นสิว
– แรงเสียดทาน: เสื้อเชิ้ต กระเป๋าเป้ อุปกรณ์กีฬา และเสื้อผ้าอื่นๆ ที่เสียดสีกับผิวหนังที่ขับเหงื่ออาจทำให้เกิดหรือทำให้สิวที่หลังแย่ลงได้
– ฮอร์โมน: ผู้ที่ตั้งครรภ์และคนหนุ่มสาวที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่น (วัยแรกรุ่น) มีแนวโน้มที่จะเกิดสิวขึ้นเมื่อระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
– ยา: ยาบางชนิด รวมทั้งคอร์ติโคสเตียรอยด์ อาจทำให้เกิดสิวที่หลังหรือทำให้แย่ลงได้
– สุขอนามัยไม่ดี: ผู้ที่มีผมไม่สะอาดสามารถเป็นสิวที่หลังได้เมื่อน้ำมันจากเส้นผมถูกับหลัง สิวที่หลังอาจเป็นผลมาจากผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว หรือเสื้อผ้าที่สกปรก
– ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: โลชั่นและครีมบางชนิดสามารถอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวได้
– ความเครียดและความวิตกกังวล: เมื่อคุณมีความวิตกกังวลหรือความเครียดมาก ร่างกายของคุณจะสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น เมื่อระดับคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ร่างกายของคุณจะผลิตไขมันมากขึ้น
– เหงื่อติดอยู่: เหงื่อสามารถติดอยู่ระหว่างผิวหนังและเสื้อผ้าของคุณ เมื่อเป็นเช่นนั้น รูขุมขนของคุณจะอุดตันได้ ผู้ที่มีเหงื่อออกมาก (เหงื่อออกมาก) มีโอกาสเกิดสิว
แล้วคุณจะรักษาสิวที่หลังได้อย่างไร?
คุณสามารถรักษาสิวที่หลังแบบไม่รุนแรงได้เองที่บ้าน คุณควรทำดังนี้
– หลีกเลี่ยงการบีบหรือบีบสิว: คุณสามารถทำลายผิวของคุณได้โดยการบีบสิว การบีบหรือบีบสิวอาจทำให้เกิดแผลเป็นจากสิวได้ ซึ่งอาจรุนแรงได้ การหยิบจับสิวอาจทำให้สิวติดเชื้อได้
-รักษาความสะอาดของผิว: ใช้ครีมอาบน้ำที่ปราศจากน้ำมันซึ่ง “ไม่ก่อให้เกิดสิว” ซึ่งหมายความว่าจะไม่อุดตันรูขุมขน อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดหลังออกกำลังกาย ต่อต้านการกระตุ้นให้ขัดผิวด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่รุนแรง การขัดผิวอาจทำให้สิวแย่ลงได้
– ลองใช้ครีม เจล และคลีนเซอร์ หรือสเปรย์ดูแลเฉพาะที่: ผลิตภัณฑ์เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์สามารถกำจัดสิวที่หลังได้ เมื่อใช้น้ำยาทำความสะอาดเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ ให้ปล่อยให้ยาอยู่บนสิวนานถึงห้านาทีก่อนที่จะล้างออก คุณอาจลองใช้เจลเรตินอยด์หรือสติกเกอร์สิวที่ปล่อยยากรดซาลิไซลิกเข้าไปในสิวเป็นเวลาหลายชั่วโมง ตัวอย่างเช่น Hiruscar Post Acne Back Spray สำหรับดูแลผิวเป็นสิวที่หลังที่เรียกได้ว่าพัฒนาให้เป็น duo effect เพราะนอกจากจะช่วยลดรอยดำ รอยแดงที่อักเสบจากสิวให้ดูจางลงแล้ว ยังช่วยให้หลุมจากสิวตื้นขึ้น เพื่อผิวที่เรียบเนียน ในขณะที่ดูแลรอยแล้วยังมีการต้านตัวเชื้อแบคทีเรีย และเกิดปัญหาสิวซ้ำอีก
-ใช้ผ้าปูที่นอนที่สะอาด: การใช้ผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนที่สะอาดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้แบคทีเรียสะสม พยายามซักผ้าปูที่นอนและผ้าเช็ดตัวอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
จะเห็นได้ว่าสิวที่หลังก็มีหลายปัจจัยที่จะทำให้เกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญคือการรักษาความสะอาดและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมค่ะ
