นักโภชนาการชื่อดัง Charles Passler อธิบายเกี่ยวกับเรื่องของ ระบบเผาผลาญ ใน Byrdie.com ไว้ว่า “การเผาผลาญหมายถึงอัตราที่ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่และแปลงสิ่งที่เราบริโภคเป็นพลังงานที่ใช้ในการรักษาการทำงานของร่างกาย”
หนึ่งในแนวทางที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของการลดหน้าท้องคือ การหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่มีประโยชน์ มีไขมันสูงและออกกำลังกายเป็นประจำ จากบทความเรื่อง 5 ข้อใช้เริ่มต้น “ลดหน้าท้อง” อย่างง่ายที่สุด
ไขมันหน้าท้องส่วนเกินนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ มันเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคต่างๆ เช่น โรคเมแทบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome) เบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจและมะเร็ง คำศัพท์ทางการแพทย์สำหรับไขมันที่ไม่แข็งแรงในท้องคือ ภาวะไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ซึ่งหมายถึงไขมันโดยรอบตับและอวัยวะอื่น ๆ ในช่องท้องของเรา
ระบบเผาผลาญมีผลต่อการลดความอ้วนโดยตรง เพราะถ้าระบบเผาผลาญไม่ดี แคลอรี่ที่ถูกเพิ่มเข้าไปในร่างกายจะเผาออกไปได้น้อยลง เมื่อแคลอรี่เยอะและสะสมก็กลายเป็นน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง สำหรับหลายคนเมื่อก้าวเข้าสู่วัย 30+ จึงเริ่มรู้สึกได้ว่า “กินเหมือนเมื่อก่อน แต่น้ำหนักกลับขึ้นเร็วกว่า”
ถ้าเราดื่มนมวันละ 1 แกลลอนต่อวัน ทุกวัน จะเป็นอย่างไร? สำหรับการกินแบบนี้นั้นมีอีกชื่อที่เรียกกันว่า GOMAD Diet หรือ Gallon of milk a day ซึ่งก็แปลได้ตรงตัวเลยว่า เป็นการดื่มนมวันละ 1 แกลลอน แต่ไม่ใช่การดื่มแต่นมอย่างเดียวตลอดทั้งวันนะครับ แต่เป็นการดื่มเพิ่มเติมจากอาหารอื่นๆ ตามปกติ
หลายๆ คนเมื่อตั้งเป้าลดน้ำหนักแล้วก็อยากจะให้เป็นเป้าหมายที่ใหญ่ๆ ลดได้เยอะๆ แต่ในทางตรงกันข้ามแล้วการลดน้ำหนักได้เยอะๆ อย่างรวดเร็วนั้นเป็นเรื่องที่ไม่แนะนำ
“พุงห้อย” เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายๆ คนหนักใจ จากบทความเรื่อง แนวทางลดไขมันเฉพาะส่วนจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก บอกว่า แนวทางการลดเฉพาะส่วนนั้นมีไม่กี่ข้อ คือ… สร้างสมดุลแคลอรี่ ออกกำลังกาย (เน้นไปที่การฝึกความแข็งแรงหรือที่เรียกว่า Strength Training) กินอาหารให้หลากหลาย อดทน อดทน และอดทน ดังนั้น หากเพื่อนๆ ต้องการกำจัดพุงห้อยๆ แล้ว คงต้องทำตามแนวทางดังกล่าวข้างต้นทั้งหมด 4 ข้อให้ได้…
แอปเปิลไซเดอร์ เชื่อว่าเพื่อนๆ น่าจะเคยได้ยินชื่อนี้กันอยู่บ่อยๆ เพราะถูกใช้เป็นยาบำรุงสุขภาพมานานนับพันปีๆ ทีเดียว จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า มันมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น การลดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นต้น ว่าแต่การเพิ่มน้ำแอปเปิลไซเดอร์ลงในอาหาร จะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่?
การไม่กินครั้งละ 24 ชั่วโมงเป็นรูปแบบการอดอาหารต่อเนื่องที่รู้จักกันในชื่อ eat-stop-eat (วิธีกินแบบหยุดกิน) ในช่วง 24 ชั่วโมงที่รวดเร็ว โดยเพื่อนๆ สามารถดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี่ได้เท่านั้น เมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 24 ชั่วโมงแล้ว สามารถกลับมาทานอาหารตามปกติ จนกว่าจะกลับมาทำอีกครั้ง
หนึ่งในรูปแบบการออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมคือ HIIT เพราะเป็นแนวทางการออกกำลังกายที่สามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากในระยะเวลาสั้น ๆ ข้อมูลจาก ออกกำลังกายแบบ HIIT ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร? พูดถึง HIIT ว่า