น้ำตาลเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ที่พบได้ทั่วไปในอาหารหลายๆประเภท ทั้งกับข้าว ขนม หรือน้ำหวานต่างๆ ความจริงแล้ว น้ำตาลหลายชนิดถือว่ามีความจำเป็นกับร่างกายของเรา เพราะไปช่วยเติมเต็มพลังงานให้กับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อหรือสมอง ซึ่งต่างก็ต้องการเชื้อเพลิงมาเพิ่มพลังงานและช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระฉับกระเฉง

ดังนั้น “น้ำตาล” จึงไม่ใช่ตัวร้ายที่ต้องตัดออกไปจากมื้ออาหารเสียหมดทุกอย่าง ทางที่ดีควรรู้จักกินน้ำตาลอย่างเหมาะสมและเข้าใจประโยชน์ของน้ำตาลให้ถ่องแท้ เพื่อจะได้มีความสุขกับการกินโดยไม่ทำลายสุขภาพ

น้ำตาลฟรุกโตส กลูโคส และซูโครส

น้ำตาลมีอยู่หลายชนิด แต่ที่นิยมกินกันมากได้แก่ ฟรุกโตสและกลูโคส ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในผักและผลไม้ ซึ่งพวกนี้จะมีเส้นใยและสารต้านอนุมูลอิสระรวมอยู่ด้วยกัน ส่วนน้ำตาลซูโครสจะมาจากฟรุกโตสและกลูโคสประกอบกัน กลายมาเป็นน้ำตาลทรายที่เราซื้อมาประกอบอาหารในชีวิตประจำวันนี่เอง

เมื่อใดที่เรากินน้ำตาลเข้าสู่ร่างกาย กลูโคสก็จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ส่วนฟรุกโตสจะต้องถูกเปลี่ยนให้เป็นกลูโคสก่อน จึงจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดต่อไป

กินน้ำตาลอย่างไรให้พอดี

ดร. เดวิด ฮีเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการที่มีชื่อเสียง กล่าวว่าการตัดน้ำตาลออกจากอาหารโดยสิ้นเชิงไม่ใช่สิ่งดี เราควรต้องมีน้ำตาลในอาหารบ้างในทุก ๆ วัน เพื่อช่วยให้พลังงานแก่สมอง เม็ดเลือด และอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายอย่างรวดเร็ว

สิ่งสำคัญก็คือควรรู้ว่าน้ำตาลมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด และควรกินในปริมาณมากน้อยเพียงใด เช่น น้ำตาลฟรุกโตสแบบธรรมชาติที่พบในผัก ผลไม้ และน้ำผึ้ง มีรสหวานมากกว่าน้ำตาลทั่วไป

ดังนั้นเมื่อกินน้ำตาลชนิดนี้ก็สามารถที่จะลดน้ำตาลแบบอื่นลงได้ นอกจากนี้การบริโภคน้ำตาลต่อวันก็ไม่ควรเกินมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งโภชนาการของไทยกำหนดไว้ คือ ควรบริโภคน้ำตาลเพียงร้อยละ 10 ของปริมาณพลังงานในอาหารที่บริโภคทั้งหมด หรืออย่ากินเกิน 40-55 กรัมต่อวัน นั่นเอง

เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็ไม่ต้องอดน้ำตาลกันนะ แค่กินให้ถูกต้องก็พอ…