พ่อแม่ต้องระวัง! พาลูกไปสถานที่แออัด เสี่ยงโรคไมโคพลาสมา

0

การไปยังสถานที่แหล่งชุมชนแออัด มีคนจำนวนมาก หรือมีการระบายอากาศไม่ดี เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงในการเจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กที่ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงเพียงพอ หนึ่งในโรคที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ โรคไมโคพลาสมา

โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อแบคทีเรียไมโคพลาสมา (Mycoplasma) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า โรคไมโคพลาสมา

เป็นโรคที่ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง การติดเชื้อไมโคพลาสมาสามารถพบได้ทุกช่วงวัย โดยพบบ่อยในช่วงอายุน้อยกว่า 40 ปี และพบบ่อยมากในเด็กเล็ก รวมทั้งวัยรุ่นอายุน้อยกว่า 20 ปี สำหรับกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค คือ กลุ่มที่พาตนเองไปอยู่ในที่ชุมชน มีผู้คนจำนวนมาก เช่น โรงเรียน โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

การติดเชื้อในเด็กเล็กทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ มีอาการไอรุนแรง เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อย ปอดบวม และอาจมีผื่นแดงตามตัว นอกจากนี้ ไมโคพลาสมายังเป็นหนึ่งในเชื้อแบคทีเรียก่อโรคปอดอักเสบอีกด้วย ทว่าหากเป็นปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ อาการมักจะไม่ค่อยรุนแรง และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม เชื้อแบคทีเรียไมโคพลาสมา ยังสามารถเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ทั้งทางสมองและหัวใจ ที่รุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิตได้

เชื้อไมโคพลาสมาสามารถติดต่อได้ทางระบบทางเดินหายใจ ติดเชื้อกันได้ง่ายแค่เพียงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้มีเชื้อ หรือได้รับละอองเชื้อจากการไอหรือการจามของผู้มีเชื้อไมโคพลาสมาอยู่ก่อน ซึ่งลักษณะอาการของผู้ที่ได้รับเชื้อไมโคพลาสมาจะคล้ายกับอาการของไข้หวัดใหญ่ โดยจะมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แต่ลักษณะเด่นของโรคนี้คือ จะมีอาการไอรุนแรง และมีการติดต่อได้ง่ายจากการหายใจสูดเอาละอองของเชื้อที่ปนมากับเสมหะหรือน้ำมูก เมื่อได้รับเชื้อนี้เข้าไปแล้ว จะใช้เวลาฟักเชื้อ 1 – 4 สัปดาห์ และจะค่อย ๆ แสดงอาการของโรคออกมา 

สำหรับอาการของโรค ได้แก่ มีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส, ไอแห้ง ๆ โดยอาการค่อย ๆ เป็นมากขึ้น อาจไอเรื้อรังจนทำให้เจ็บกล้ามเนื้อหน้าอก, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย, เจ็บคอ คันคอ คอแดงเล็กน้อยไม่มีหนอง, เจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าหรือออก (พบได้น้อย), อาจพบผื่นแดงตามผิวหนัง ลักษณะคล้ายไข้ออกผื่น , ถ้าอาการรุนแรงขึ้นจะทำให้หายใจเหนื่อย หายใจเร็ว แต่ยังคงดำเนินชีวิตประจำวันได้ปกติ ผู้ป่วยจะมีอาการติอต่อกันนานเกิน 1 สัปดาห์ โดยอาการไข้อาจหายก่อน แต่ยังมีอาการไออยู่มากกว่า 3 สัปดาห์ จากนั้นอาจหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา

ปัจจุบันโรคไมโคพลาสมายังไม่มีวัคซีนป้องกัน วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรค คือ หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่แหล่งชุมชนแออัด มีคนจำนวนมาก หรือมีการระบายอากาศไม่ดี หากมีความจำเป็น พ่อ แม่ ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรให้เด็กสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือให้สะอาดบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนการรับประทานอาหาร หลังการเข้าห้องน้ำ รวมถึงหลังจากสัมผัสกับสิ่งของสาธารณะต่าง ๆ

ทั้งนี้ ควรรีบพาเจ้าตัวซนไปพบแพทย์เป็นการด่วน หากมีอาการ ไข้สูง ไอแห้ง ๆ บ่อยครั้งและเป็นระยะเวลานาน หรือไอเป็นเลือด หายใจหอบเหนื่อย หายใจเร็ว เจ็บหน้าอกเวลาหายใจ เนื่องจากแสดงถึงความรุนแรงของโรค

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *