รวมทริคดูแลและป้องกันดวงตาเด็กจากฝุ่น PM 2.5

0

ดวงตา เป็นอวัยวะสำคัญที่ละเอียดอ่อนถูกกระทบได้ง่ายจากการสัมผัสโดยตรงกับฝุ่นมลภาวะในอากาศ โดยเด็กเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางตาจากมลภาวะทางอากาศ ไม่อยากให้เจ้าตัวซนได้รับผลกระทบต่อดวงตาอันเนื่องจากฝุ่น PM 2.5 เรารวบรวมทริคดูแลและป้องกันดวงตาเด็กจากฝุ่น PM 2.5 มาฝาก

ฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือฝุ่น PM 2.5 อาจส่งผลให้ดวงตาเกิดการระคายเคือง แต่อาการผิดปกติเหล่านี้มักเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ส่งผลให้เกิดอันตรายร้ายแรงกับดวงตา ยกเว้นเด็กที่มีความผิดปกติกับดวงตา เช่น มีประวัติเดิมเป็นภูมิแพ้ ภูมิแพ้ขึ้นตา อาจทำให้มีอาการเคืองตาหรือตาแดงมากกว่าปกติ โดยจะมีการระคายเคืองเล็กน้อยจนถึงระคายเคืองมาก รู้สึกไม่สบายตาเรื้อรัง เช่น เคืองตา คันตา รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในตา ตาแห้ง

เด็กอาจจะขยี้ตาบ่อย ๆ กระพริบตาหรือขยิบตาถี่ ๆ ตาแดงเป็น ๆ หาย ๆ หรือรุนแรงถึงขั้นเยื่อบุตาอักเสบ กระจกตาอักเสบ และกระจกตาถูกทำลายในระยะยาว ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทันใด แต่เกิดจากการสัมผัสฝุ่นมลภาวะอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาวะตาแห้ง ถ้าเป็นในระยะเวลาต่อเนื่องนาน ๆ อาจทำให้เกิดการทำลายกระจกตาได้เช่นกัน และส่งผลต่อการมองเห็นในระยะยาว เช่น ตาพร่ามัวลง มีปัญหาเรื่องการมองเห็นสี เป็นต้น

หากพบเด็กมีอาการแสบตาหรือเคืองตามาก โดยสันนิษฐานว่ามาจากฝุ่นละออง หรือฝุ่นควันต่าง ๆ ควรปฏิบัติดังนี้

1. ใช้น้ำสะอาดล้างดวงตา อาจเป็นน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว หรือใช้น้ำเกลือล้างแผล โดยให้น้ำไหลผ่านตาล้างเอาเศษฝุ่นออก

2. ถ้ามีน้ำตาเทียมสำหรับหยอดตา สามารถใช้ล้างบริเวณดวงตาได้ ซึ่งจะปลอดภัยกว่าการใช้น้ำยาล้างตาที่เป็นสารเคมี

3. ให้เด็กกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อช่วยให้ฝุ่นหลุดออกมาเร็วขึ้น หลีกเลี่ยงการขยี้ตา ไม่ควรใช้สำลีหรือของมีคมอื่น ๆ มาสัมผัสลูกตาหรือคีบออก เพราะอาจทำให้ผิวกระจกตาถลอกได้

แม้การป้องกันดวงตาจากฝุ่น PM 2.5 อาจทำได้ยาก เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะที่ยากต่อการป้องกันการสัมผัสฝุ่นมลภาวะ ต่างจากจมูกหรือปากที่สามารถใส่หน้ากากอนามัยป้องกันได้ อย่างไรก็ตามเราสามารถลดความเสี่ยงและปกป้องดวงตาจากฝุ่น PM 2.5 ได้ดังนี้

1. ควรดูแลให้เด็กไม่อยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นควันหนาแน่น หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้านในช่วงปริมาณค่าฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่ระดับสีเขียวขึ้นไป และหากค่า PM 2.5 อยู่ในระดับสีแดงขึ้นไปไม่ควรออกนอกบ้าน

2. หากมีอาการระคายเคืองหรือแสบตาไม่ควรขยี้ตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหรือใช้น้ำตาเทียมหยอดตา

3. ให้เด็กสวมใส่แว่นกันแดด เพื่อป้องกันฝุ่นและลมเป็นประจำเมื่อออกจากบ้าน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวภูมิแพ้ หรือมีภูมิแพ้บริเวณดวงตา ควรสวมใส่แว่นตาชนิดมีขอบด้านบนและด้านข้าง เนื่องจากแว่นตาทั่วไปไม่สามารถป้องกันฝุ่นควันที่เข้าตาจากด้านข้างได้ สำหรับเด็กที่ใส่คอนแทคเลนส์ หากต้องอยู่ในที่มีฝุ่นควันเยอะควรใช้แว่นตาแทน เพราะการใส่คอนแทคเลนส์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ดวงตาได้

4. พ่อ แม่ ผู้ปกครองควรงดการเผาใบไม้ เผาขยะ และไม่ควรติดเครื่องยนต์เป็นเวลานานในบริเวณบ้าน นอกจากนี้ ควรปลูกต้นไม้เพื่อดักฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ

หากพบว่าเด็กมีอาการ เช่น ตาแดงมาก ขี้ตาสีเขียวหรือสีเหลือง (แสดงว่ามีการติดเชื้อ) เจ็บหรือปวดตารุนแรง ตามัวลง เห็นภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน มองเห็นแสงกระจายเป็นรัศมีรอบ ๆ มีเลือดออกในตา ควรรีบพาไปพบจักษุแพทย์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *