วันหยุด หรือช่วงปิดเทอม เป็นช่วงที่เด็กส่วนใหญ่รอคอย เนื่องจากได้มีเวลาว่างเพิ่มมากขึ้น หลังจากเรียนมาทั้งเทอม อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรหากิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันในครอบครัว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ เด็ก ๆ จะได้ไม่หมกมุ่นกับหน้าจอมือถือมากเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต
ในช่วงปิดเทอม วงจรชีวิตของเด็ก กว่าร้อยละ 80-90 จะนอนดึกตื่นสาย เล่นอินเทอร์เน็ต เล่นเกม จนถึงเที่ยงคืน ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย เช่น ระบบสายตา โรคอ้วน เครียด พัฒนาการถดถอย หรือบางรายอาจเกิดภาวะอารมณ์ที่รุนแรง นอกจากนี้ หลายครอบครัวนิยมส่งลูกไปเรียนภาควิชาแทนการทำกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ช่วยพัฒนาทักษะทางสังคม อาจทำให้เด็กกดดันและเครียดได้ เพราะในช่วงปิดเทอมเด็ก ๆ จะมีเวลาว่างอยู่กับผู้ปกครองมากกว่าช่วงเปิดเทอม จึงเป็นโอกาสสำคัญที่เด็ก ๆ และผู้ปกครองจะได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้างสัมพันธภาพกับเด็กให้เด็กรู้สึกอบอุ่น มีพัฒนาการ และสร้างความมั่นใจ การเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมให้แก่เด็ก ๆ ทำให้มีทักษะในด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น
พ่อแม่ ผู้ปกครอง จึงต้องเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับเด็ก โดยแบ่งตามช่วงวัยดังนี้
1. กิจกรรมสำหรับเด็กวัยอนุบาล อายุ 3-6 ปี เป็นวัยที่เน้นกิจกรรมสนุกสนานและน่าตื่นเต้น เช่น การลอดถ้ำจำลอง วาดภาพระบายสี ฟังและเล่านิทาน ปิกนิก เล่นกีฬา ร้องเพลง กิจกรรมลูกเสือ การเดินสำรวจธรรมชาติ ว่ายน้ำ ไปเที่ยวสวนสัตว์ ไป เป็นต้น นอกจากนี้ การที่เด็กได้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน ได้กระโดดโลดเต้น ปีนป่ายต้นไม้ การทำกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการด้านสังคม และด้านร่างกายช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยเรื่องการทรงตัว
2. กิจกรรมสำหรับเด็กประถมศึกษา อายุ 6-12 ปี และกิจกรรมสำหรับวัยรุ่น อายุ 13-17 ปี เป็นช่วงวัยที่เริ่มเข้าสังคม ชอบทำกิจกรรมที่สนุกสนานและท้าทายความสามารถ โดยกิจกรรมของ 2 ช่วงวัยนี้คล้ายคลึงกัน เช่น เล่นวอลเลย์บอล กีฬาฟันดาบ เล่นกีฬาทางน้ำ ปีนผาจำลอง ไต่เชือก ปั่นจักรยาน เดินป่าชมธรรมชาติ ตั้งค่ายพักแรม เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้ช่วยพัฒนาทักษะชีวิต ฝึกการควบคุมตนเอง สร้างความมั่นใจในตนเอง ฝึกทักษะทางกีฬา ฝึกความเป็นผู้นำ การแก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต
ในช่วงปิดเทอมพ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรดูแลเรื่องสุขภาพของเด็ก และหากิจกรรมพิเศษให้เหมาะสมตามวัย ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง เช่น การนั่ง นอนดูโทรทัศน์ เล่นโทรศัพท์มือถือ และเกมคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรเพิ่มกิจกรรมทางกายและส่งเสริมให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น วิ่ง กระโดดเชือก เต้นแอโรบิค หรือทำงานบ้านเล็กๆ น้อย ๆ เป็นการช่วยฝึกวินัยช่วงปิดเทอม โดยอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ พ่อแม่ควรใส่ใจเรื่องการกินของเจ้าตัวซน โดยเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและเหมาะสมกับวัยของเด็ก เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคและช่วยลดอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ รวมถึงให้ลูกช่วยทำงานบ้านให้เหมาะสม เด็ก ๆ จะได้มีวินัย และเป็นการออกกำลังกายให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคภัยได้
เมื่อเด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมที่เหมาะสมพร้อมกับใช้เวลาร่วมกับครอบครัว สิ่งที่ตามมาก็คือ เด็ก ๆ จะได้หาความสามารถพิเศษของตนเองเจอ สุขภาพก็ไม่เสีย ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เมื่อเจ้าตัวซนมีความสุขพ่อแม่ก็แฮปปี้