มีลูกวัยรุ่นต้องบอก..ท้องไม่พร้อม ป้องกันได้ด้วยการ “คุมกำเนิด”

0

“ท้องไม่พร้อม” ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่ครอบครัวที่มีลูกวัยรุ่นไม่อยากประสบพบเจอ แต่ในเมื่อวัยรุ่นเป็นวัยแห่งการอยากรู้อยากลองและมีความต้องการทางเพศ พ่อแม่ไม่สามารถอยู่กับลูกได้ตลอดเวลา เมื่อห้ามการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ แนะนำให้ป้องกันปัญหาท้องไม่พร้อมด้วยการให้ลูก “คุมกำเนิด”

เรื่องเพศสัมพันธ์ถูกทำให้เป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดในสังคมไทยมายาวนาน ไม่แปลกที่พ่อแม่หลายคนเลือกที่จะปล่อยเบลอ ไม่บอก ไม่สอนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว บอกตัวเองหรือลูกว่ายังไม่ถึงเวลาต้องรู้บ้าง อีกหน่อยโตขึ้นก็รู้เองบ้าง หรือไม่ใช่เรื่องของเด็ก กลายเป็นว่าปล่อยให้ลูกวัยรุ่นริลองเรียนรู้เรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การท้องไม่พร้อมได้

ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยง ควรพูดคุยให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์และการป้องกันกับลูก ถึงแม้เด็กยังไม่ถาม และยังไม่มีโอกาสหรือสถานการณ์ให้ชวนคุยได้ แต่ถ้าไม่คุยไว้ก่อนเด็กก็อาจเจอโอกาสเสี่ยง เราจึงจำเป็นต้องคุยไว้ก่อน เช่น เมื่อลูกสาวมีประจำเดือน หรือลูกชายเริ่มฝันเปียก ยิ่งถ้าลูกเริ่มมีแฟน พ่อแม่ยิ่งต้องสร้างโอกาสคุยทันที อย่าปล่อยไว้จนลูกเริ่มพัฒนาไปถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ หากประเมินแล้วคิดว่าลูกมีความเสี่ยงแนะนำให้พาลูกไปเข้ารับการคุมกำเนิด

โดยวัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 20 ปี มีสิทธิสามารถเข้ารับการคุมกำเนิดฟรีทุกวิธี รวมถึงยาฝังคุมกำเนิดและห่วงอนามัยที่โรงพยาบาลเครือข่ายของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั่วประเทศ ตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ ยาฝังคุมกำเนิด เป็นวิธีการควบคุมกำเนิดแบบกึ่งถาวรที่มีประสิทธิภาพสูง มี 2 ชนิด ได้แก่ ยาฝังคุมกำเนิด ชนิด 1 หลอด จะคุมกำเนิดได้นาน 3 ปี และยาฝังคุมกำเนิด ชนิด 2 หลอด จะคุมกำเนิดได้นาน 5 ปี โดยจะฝังใต้ผิวหนังบริเวณท้องแขน และถอดออกเมื่อครบกำหนด

ข้อดีของยาฝังคุมกำเนิด ได้แก่

1. สะดวก มีประสิทธิภาพสูง และคุมกำเนิดได้นาน

2. ไม่รบกวนการมีเพศสัมพันธ์ หรือการใช้ชีวิตประจำวัน

3. ไม่ต้องกังวล เรื่องการตั้งครรภ์ หรือปัญหาลืมกินยาเม็ดคุมกำเนิด

4. ใช้ในสตรีให้นมบุตรได้ โดยไม่มีผลต่อปริมาณ และคุณภาพของน้ำนม เมื่อหยุดการใช้ยาฝังคุมกำเนิดจะสามารถกลับสู่ภาวะเจริญพันธุ์ได้เร็ว

อย่างไรก็ตาม การฝังยาคุมกำเนิดอาจมีอาการข้างเคียง ได้แก่ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย เป็นสิว และอารมณ์แปรปรวนได้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 6 เดือน

ทั้งนี้ หากผู้รับบริการยาฝังคุมกำเนิดมีเลือดออกผิดปกติ ปวดศีรษะมาก มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะขาดประจำเดือน หรือประจำเดือนมากะปริดกะปรอย สามารถขอรับคำปรึกษาและการรักษาได้จากผู้ให้บริการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *