บาดแผล คือ เนื้อเยื่อของร่างกายคนเรา เมื่อได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือการผ่าตัดรักษาโรค อาทิ ถูกของมีคม ถูกกระแทก ถูกของร้อน จนส่งผลให้เนื้อเยื้อเกิดเสียหาย หรือฉีกขาด ซึ่งหากดูแลบาดแผลได้ไม่ดีพอ สิ่งที่ตามมา คือ แผลเป็น ที่สร้างร่องรอยให้ผิวดูไม่สวยงาม ส่งผลให้ผู้เป็นเจ้าของแผลเป็นรู้สึกไม่มั่นใจ
บาดแผลสามารถแยกออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
1. แผลเปิด คือ บาดแผลที่มีการเปิดของผิวหนัง เช่น แผลถลอก แผลถูกของมีคมบาดทิ่มแทง แผลไฟไหม้ แผลน้ำร้อนลวก
2. แผลปิด คือ บาดแผลที่ไม่มีรอยแยกของผิวหนังแต่มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อภายใต้ผิวหนัง เช่น แผลฟกช้ำ ห้อเลือด
แผลเป็นมีหลายรูปแบบ แต่แผลเป็นที่ถือว่าผิดปกตินั้นจะแบ่งออกได้เป็น 3 ลักษณะ คือ
1. แผลเป็นที่โตนูน แผลเป็นที่โตนูนมี 2 แบบคือ 1) แผลเป็นนูนเกิน (hypertrophic scar) เป็นแผลเป็นที่โตนูน แต่ไม่เกินขอบเขตของแผลเดิม 2) แผลเป็นคีลอยด์ เป็นแผลเป็นที่โตนูน และขยายใหญ่เกินขอบเขตของแผลเดิมไปมาก
2. แผลเป็นที่ลึกบุ๋มลงไป (depressed scar) มีลักษณะเป็นร่อง หรือรูบุ๋มลึกลงไปใต้ผิวหนัง
3. แผลเป็นที่มีการหดรั้งร่วมด้วย (scar contracture) แผลเป็นชนิดนี้จะดึงรั้งอวัยวะบริเวณแผลให้ผิดรูปได้
บาดแผลสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่จะเกิดแผลเป็นหรือไม่นั้น อยู่ที่การดูแลแผล และนี่คือทริคดูแลผิว ไม่ให้มีแผลเป็น
1. ขณะที่แผลเพิ่งเกิดขึ้นใหม่ ๆ ยังเป็นแผลสด ควรดูแลแผลให้สะอาด ใช้ยาสำหรับทาแผลสด พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ หรืออาจปิดแผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แผลจะได้หายเร็วขึ้น และไม่กลายเป็นแผลนูน
2. หากแผลตกสะเก็ด ไม่ควรแคะ แกะ เกา หรือพยายามลอกแผลออก เพราะจะทำให้เป็นแผลซ้ำอีก และอาจเกิดการติดเชื้อจากสิ่งสกปรกและแบคทีเรียที่อยู่บนมือ รวมถึงอาจจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นนูนได้
3. ทาครีมลดเลือนรอยแผลเป็น หลังจากที่แผลปิดสนิทแล้วทันที ยิ่งทาเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งหายเร็วเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรทาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นแผลสด แผลเปิด หรือแผลเปื่อย เพราะอาจทำให้แผลกลายเป็นรอยดำได้
4. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดร่องรอยไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ และพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่เป็นแผลเป็นโดนแสงแดด เพื่อป้องกันไม่ให้แผลเกิดรอยดำ
5. รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการสมานแผล และซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เช่น โปรตีน วิตามินซี ธาตุเหล็ก สังกะสี รวมถึงดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ใครกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ดูแลรอยแผลเป็นสำหรับทุกคนในครอบครัว ขอแนะนำ ฮีรูดอยด์ครีม (Hirudoid Cream) ครีมลดเลือนรอยแผลเป็น บรรเทาอาการหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังอักเสบ ลดภาวะเลือดคั่งใต้ผิวหนัง ทำให้รอยแผลเป็นดูจางลง ใช้ทาเพื่อผลัดผิวหนังแห้งจากการโดนแสงแดด ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ สูตรนี้เหมาะสำหรับแผลเป็นทั่วไปที่ไม่นูนมาก แผลเป็นหลังตกสะเก็ดใหม่ ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้ใช้ฮีรูดอยด์ครีมหลังแผลปิดสนิทดีแล้วเท่านั้น ทาและนวดเบา ๆ วันละ 1-3 ครั้ง โดยจะเริ่มเห็นผลหลังใช้ไปอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ แต่หากเป็นแผลเป็นเก่า อาจต้องใช้เวลามากกว่านั้น
ดูแลแผลให้ดีตั้งแต่ตอนที่เป็นแผลสด เมื่อแผลแห้งแล้วรอยแผลจะได้ไม่รุนแรง รักษาง่ายหายไว จากนั้นรีบทาครีมลดเลือนรอยแผลเป็น หมั่นทาทุกวัน ผิวก็จะกลับมาเนียนใสเหมือนเดิม