วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร? ทำไมเบบี๋ต้องฉีด?

0

โรคไวรัสตับอักเสบบีเป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อตับ โดยมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เมื่อเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี อาจมีอาการป่วยไม่รุนแรงอยู่ 2-3 สัปดาห์ หรืออาจนำไปสู่ความเจ็บป่วยที่รุนแรงตลอดชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม เราสามารถป้องกันไวรัสตับอักเสบบีและโรคที่เกิดจากไวรัสชนิดนี้ ด้วยการฉีดวัคซีน

โรคไวรัสตับอักเสบบี เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคตับอักเสบ อาการเฉียบพลัน มักมีไข้ ปวดท้อง เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้มขึ้น นอกจากนี้ อาจทำให้เป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง โรคตับแข็ง มะเร็งตับ และเสียชีวิตได้ ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้ ถึงแม้ไม่มีอาการ โรคไวรัสตับอักเสบบีติดต่อได้ทางเลือด ผลิตภัณฑ์ของเลือด เพศสัมพันธ์ สารคัดหลั่ง และจากมารดาที่เป็นพาหะสู่ทารกได้ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอาจเป็นได้ทั้งเฉียบพลันหรือเรื้อรัง

วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B vaccine) ทำจากโปรตีนผิวนอกของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี มีความปลอดภัยและสามารถป้องกันโรคได้ดี ซึ่งไม่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้ โดยปกติการฉีดวัคซีนป้องกันจะฉีด 2, 3 หรือ 4 ครั้งในช่วง 1 ถึง 6 เดือน ทารกควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีครั้งแรกเมื่อแรกเกิด และโดยปกติจะต้องฉีดวัคซีนจนครบชุดเมื่ออายุครบ 6 เดือน สำหรับบุคคลที่ไม่ควรได้รับวัคซีน ได้แก่ ผู้ที่เคยมีปฏิกิริยาแพ้รุนแรงต่อวัคซีนนี้ กรณีมีไข้ หรือมีอาการป่วยรุนแรงหรือปานกลาง ควรเลื่อนการรับวัคซีนออกไปก่อน รอจนหายเป็นปกติค่อยรับ

ฉีดวัคซีนอย่างไร

– ฉีดเมื่อแรกเกิด และได้รับเป็นวัคซีนรวม คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี และฮิบ เมื่ออายุประมาณ 2, 4 และ 6 เดือน กรณีที่ไม่สามารถมารับวัคซีนได้ตามนัด ควรพาเด็กไปรับวัคซีนให้ครบ ไม่ว่าจะเว้นไปนานเท่าไรก็ตาม ก็สามารถให้ต่อเนื่องได้ โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่

– ฉีดผู้ใหญ่ที่ยังไม่ติดเชื้อ และยังไม่มีภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะหากมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ ควรฉีดทันทีที่มีโอกาส

วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี เมื่อฉีดเข้ากล้ามเนื้อจะได้ผลดีกว่าฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ดังนั้น ตำแหน่งที่จะให้วัคซีน จะต้องให้เข้ากล้ามเนื้อจริง ๆ ได้แก่

– ในทารกและเด็กเล็ก ควรให้ที่หน้าขา (anterolateral of thigh)

 – ในเด็ก 1-5 ปี อาจอนุโลมให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อสะโพกได้ แต่ต้องมั่นใจว่าฉีดเข้ากล้ามเนื้อ

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังรับวัคซีน ได้แก่ ปวด บวมบริเวณที่ฉีด หรือมีไข้ต่ำ ๆ เริ่มมีอาการ 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด และเป็นไม่เกิน 24 ชั่วโมง ส่วนอาการแพ้รุนแรง ได้แก่ มีผื่นทั้งตัว หน้าบวม คอบวม หายใจลําบาก ใจสั่น วิงเวียนหรืออ่อนแรง จึงควรพักสังเกตอาการของลูกน้อยประมาณ 30 นาทีหลังฉีดวัคซีน ณ สถานที่รับบริการ และควรสังเกตอาการต่อที่บ้าน หากเบบี๋มีอาการข้างเคียงหลังจากได้รับวัคซีนควรแจ้งแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก่อนรับวัคซีนครั้งต่อไป ทั้งนี้ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรดูแลให้เบบี๋รับวัคซีนตามกำหนดและเก็บสมุดบันทึกการรับวัคซีนไว้ตลอดไป

การดูแลให้เบบี๋ได้รับวัคซีนครบถ้วนตามช่วงวัยเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยผ่าน เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีให้เบบี๋ห่างไกลจากความเสี่ยงในการป่วยด้วยโรคต่าง ๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *