ข้อควรรู้เกี่ยวกับ “น้ำยาบ้วนปาก” เพื่อผลลัพท์ที่คุ้มค่า!

0

“น้ำยาบ้วนปาก” เป็นผลิตภัณฑ์ช่วยทำความสะอาดภายในช่องปากที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเพราะเชื่อกันว่า จะทำให้ช่องปากสะอาด ต้านเชื้อจุลินทรีย์ กำจัดคราบอาหาร ลมหายใจมีกลิ่นหอม และรู้สึกสดชื่น

คำถามคือ ควรใช้อย่างไรน้ำยาบ้วนปากจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด?

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ “น้ำยาบ้วนปาก” เพื่อผลลัพท์ที่คุ้มค่า

things-to-know-about-mouthwash-for-good-results

  1. ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากทดแทนการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟัน แต่ให้ใช้เสริมการแปรงฟันเท่านั้น และไม่แนะนำให้ใช้เป็นกิจวัตรประจำ
  2. น้ำยาบ้วนปากที่มีขายทั่วไปมีส่วนผสมหลักๆ คือ สารฆ่าเชื้อโรคและสารที่มีกลิ่นหอม ถ้าจะใช้เพื่อหวังผลในการฆ่าเชื้อโรคนั้น อาจผิดหวัง เพราะเชื้อในช่องปากสามารถก่อตัวขึ้นใหม่ในเวลาไม่กี่นาที ยกเว้นน้ำยาบ้วนปากชนิดพิเศษที่หวังผลในการฆ่าเชื้อสูง ซึ่งเป็นคนละชนิดกับที่ขายกันตามท้องตลาด
  3. น้ำยาบ้วนปากที่มีขายตามท้องตลาด ไม่ควรใช้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี
  4. ควรเลือกใช้น้ำยาบ้วนปากแบบผสมฟลูออไรด์ เพราะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุช่วยให้ฟันแข็งแรง
  5. การบ้วนน้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์หลังแปรงฟันทันที ไม่ได้ประโยชน์ แนะนำว่าถ้าจะบ้วนน้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ ควรบ้วนหลังแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
  6. ไม่ต้องบ้วนน้ำเปล่าตามหลังจากใช้น้ำยาบ้วนปาก เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของน้ำยาบ้วนปากลดลง ถ้ารู้สึกว่าแสบมาก ก็ควรเปลี่ยนเป็นแบบไม่ผสมแอลกอฮอล์
  7. ไม่ควรดื่มน้ำหรือทานอาหาร หลังบ้วนน้ำยาบ้วนปาก ไปอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ฟลูออไรด์ทำงานได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ วิธีดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุด คือ การแปรงฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธี ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคฟันผุ โรคเหงือก และกลิ่นปาก โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาบ้วนปากค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *