ในยามที่อยากฟิตแอนด์เฟิร์มรูปร่างบวมๆ เผละๆ ขจัดส่วนเกินให้ผอมเพรียวสมใจ เชื่อว่าหนึ่งในวิธีเบสิกที่หลายๆ คนนึกออกก็คือ การกระหน่ำทานผลไม้แทนการทานอาหาร เพราะเชื่อว่าแคลอรี่เบาๆ ของผลไม้จะช่วยให้น้ำหนักลดได้สมใจ แถมผลไม้ยังมีรสชาติอร่อยและอุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อีกด้วย จากความเชื่อนี้เองทำให้หลายคน “พลาด” แบบไม่รู้ตัว
แม้ผลไม้จะผลดีในแง่ที่ว่า ให้แคลอรีต่ำ อุดมด้วยกากใยอาหาร ที่สำคัญยังมีกรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ แต่ข้อเสียของมันก็คือ ผลไม้ไม่มีโปรตีนและไขมันจากพืชเลยนอกจากนั้นผลไม้ยังขาดวิตามินดี วิตามินบี 12
พูดง่ายๆ ก็คือ การทานผลไม้ล้วนๆ แทนการทานอาหารทำให้ร่างกายเราขาดดุลในสิ่งที่เป็นความต้องการของร่างกาย ทั้งยังรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ไม่กระฉับกระเฉง
ที่สำคัญผลไม้บางชนิดนั้นนอกจากไม่ช่วยให้ผอมยังทำให้อ้วนได้ เนื่องจากน้ำตาลในผลไม้นั้นค่อนข้างมาก โดยความหวานที่ว่านี้จะให้พลังงานแก่ร่างกาย ซึ่งถ้าหวานมากไปน้ำตาลก็จะเปลี่ยนพลังงานให้เป็นไขมันสะสมอยู่ในร่างกาย และนั่นจะก่อให้เกิดโรคอ้วนลงพุงผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตาลมากส่วนใหญ่จะมีสีโทนเหลืองและมีรสหวานจัด เช่น ทุเรียน ขนุน มะม่วงสุก ลำไย เงาะ เป็นต้น
แม้การลดความอ้วนด้วยวิธีทานผลไม้ล้วนๆ แทนการทานอาหารจะเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง แต่การไม่ทานผลไม้เลยก็ส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกัน เพราะในผลไม้อุดมไปด้วยกรดอะมิโน แร่ธาตุ วิตามิน ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่ล้วนให้ประโยชน์กับร่างกาย ทางที่ดีควรเลือกรับประทานผลไม้ในปริมาณที่พอเหมาะ คือทานผลไม้ที่หวานน้อยวันละ 3-5 ส่วน (1 ส่วนประมาณ 6-8 ชิ้นคำ) และควรทานผลไม้ให้หลากหลายชนิด อย่าทานผลไม้ชนิดเดียวซ้ำๆ ที่สำคัญควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย รวมถึงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
