“วิตามินบี6” (Vitamin B6)

กลุ่มของสารประกอบ 3 ชนิดได้แก่ ไพริด็อกซิน (Pyridoxine), ไพริด็อกซาล(Pyridoxal) และไพริด็อกซามีน (Pyridoxamine) แต่โดยทั่วไปวิตามินบี6 มักจะหมายถึง Pyridoxamine อย่างเดียว เพราะว่าเป็นไวตาเมอร์ในกลุ่มนี้ที่พบเป็นครั้งแรก วิตามินนี้พบได้ในแหล่งอาหารทั่วไป เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ โดยจะถูกขับออกจากร่างกายภายใน 8 ชั่วโมงหลังจากรับประทาน

แหล่งวิตามินบี 6 ได้แก่ ยีสต์และจุลินทรีย์ในลำไส้ ตับ จมูกข้าวสาลี ปลาแซลมอน ถั่วลิสง ธัญพืชไม่ขัดสี กล้วย อโวคาโด ข้าวสาลี รำข้าว กะหล่ำปลี แครอทวอลนัทข้าวโพด ข้าวโอ๊ตถั่วเหลือง มะเขือเทศ ผักขม ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ถั่วเหลือง ถั่วเมล็ดกลม กระหล่ำดอก ไข่ เนยแคนตาลูป ตับ เป็นต้น

วิตามินบี 6 ทำงานร่วมกันและเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกันกับกลุ่มวิตามินบี วิตามินซี และวิตามินอี นอกจากนี้แมกนีเซียม, โซเดียม, โพแทสเซียม, สังกะสี, ไลโนเลอิค และกรดไขมันต่าง ๆ เป็นวิตามินร่วมที่ให้ผลดีการขาดวิตามินบี 6 จะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เช่น…

• อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
• ผมร่วง
• ริมฝีปากแห้งแตก มีแผลในปาก ปากอักเสบ ปากนกกระจอกเจ็บลิ้น
• มีอาการทางประสาท ความคิดสับสน
• นอนไม่หลับ ซึมเศร้า
• โลหิตจางแบบเม็ดเลือดแดงมีขนาดเล็กเม็ดเลือดขาวต่ำเล็บเป็นคลื่น ฯลฯ

วิตามินบี6 จัดเป็นวิตามินที่พบในอาหารทั่วไปและในมัลติวิตามินที่จำหน่ายในร้านขายยา มีการนำวิตามินบี 6 ไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง

จากคุณสมบัติของวิตามินที่ช่วยไปทำลายอนุมูลอิสสระที่เกิดขึ้น ป้องกันเซลล์ผิวหนังไม่ให้ถูกทำลายหรือเหี่ยวย่นก่อนวัย ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยชะลอความแก่ของร่างกายส่วนต่างๆนอกจากนี้ยังมีการใช้วิตามินบี 6 เพื่อรักษาสิว เสริมระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันนิ่วในไตและความจำเสื่อม ป้องกันอาการพังพืดรัดข้อมือ แต่การใช้ดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันผล!