6 ข้อต้องรู้เพื่อป้องกันการเกิด “แผลเป็น”

0

ผิวหนังประกอบด้วยชั้นหนังกำพร้าที่อยู่นอกสุด ลึกลงไปจะเป็นชั้นหนังแท้ หากบาดแผลที่เกิดขึ้นลึกถึงชั้นหนังแท้ ก็จะทำให้เกิดแผลเป็นขึ้นได้ คนทั่วไปย่อมไม่อยากมีแผลเป็นเกิดขึ้น เพราะทำให้ผิวดูไม่สวยงาม สร้างความรู้สึกรำคาญใจและไม่มั่นใจแก่เจ้าของแผล เมื่อไม่อยากมีแผลเป็นสิ่งที่ทำได้ คือ การป้องกัน

ข้อต้องรู้เพื่อป้องกันการเกิด “แผลเป็น”

1. ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ หลังผ่าตัดแพทย์มักปิดแผลไว้ด้วยพลาสเตอร์กันน้ำเพื่อป้องกันแผลติดเชื้อจากสิ่งสกปรก และสิ่งระคายเคือง ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แผล ทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น ลดโอกาสการเกิดแผลเป็นไปในตัว นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ป่วยอาบน้ำได้สะดวกมากขึ้น และลดโอกาสที่แผลผ่าตัดจะโดนน้ำ ซึ่งจะทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ ผู้ป่วยควรสอบถามว่าแกะพลาสเตอร์ออกได้เมื่อใด และแกะพลาสเตอร์ปิดแผลออกตามกำหนดเท่านั้น

2. ห้ามเขี่ย แคะ แกะ เกาแผลเป็นอันขาด เพราะจะเป็นการเปิดแผลขึ้นอีกครั้ง และเสี่ยงต่อแบคทีเรีย ที่น่ากลัวคืออาจทำให้แผลเป็นมีขนาดใหญ่ขึ้น

3. กรณีเป็นแผลจากการผ่าตัด ผู้ป่วยต้องระมัดระวังในการขยับร่างกายบริเวณแผลผ่าตัดให้น้อยที่สุด หากแผลผ่าตัดได้รับแรงกระทบกระเทือนมากเกินไปจะทำให้แผลหายช้าลงหรือปริออกได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการยกของ การออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดแรงดันที่แผลในช่วงเดือนแรกหลังผ่าตัด ควรรอให้แผลสมานตัวและหายดีเสียก่อน

4. การนวดสามารถช่วยให้รอยแผลเป็นคีลอยด์นุ่มและแบนลงได้ โดยแนะนำให้นวดแผลพร้อมกับการใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอี (แต่ไม่ควรมีส่วนผสมของน้ำหอม) เพื่อเข้าไปช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเนื้อเยื่อของแผลเป็น การนวดอย่างสม่ำเสมอในระยะประมาณ 3-6 เดือนแรก เป็นเรื่องสำคัญ และจะช่วยให้แผลเป็นนั้นลดการขยายตัวและนูนเกินได้ รวมถึงช่วยให้แผลเป็นนุ่มขึ้น สีของผิวบริเวณแผลดูจางลงได้ แต่อย่าลืมปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อการนวดอย่างถูกวิธี

5. ใช้เจลหรือแผ่นซิลิโคนลดแผลเป็น โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา เพียงวางเจลชนิดนี้ลงบนแผลเป็นวันละ 12 ชั่วโมง ติดต่ออย่างน้อย 3 เดือน ใช้สำหรับลดความแดงของแผลเป็น และอาจช่วยลดขนาดของคีย์ลอยด์หรือแผลเป็นชนิดนูนที่ไม่ขยายใหญ่ให้เล็กลงได้

6. ใช้ผลิตภัณฑ์ลบเลือนรอยแผลเป็น โดยใช้ฮีรูสการ์ ซิลิโคน โปร เพื่อช่วยดูแลรอยแผลเป็น ด้วยการคงความชุ่มชื้นของผิว และช่วยบรรเทาอาการคันที่เกิดจากแผล พร้อมส่วนผสมของ Stabilized Vitamin C ช่วยให้รอยแผลเป็นแลดูจางลง หลังจากทำความสะอาดบริเวณรอยแผลเป็นและซับให้แห้งแล้ว ให้บีบเจลขนาดประมาณเมล็ดถั่วเขียว แตะลงบนรอยแผลเป็นและลูบบาง ๆ ไปในทิศทางเดียวให้ทั่วแผล แนะนำให้เริ่มใช้ทันที เมื่อแผลหายและปิดสนิทดีแล้ว

โดยทั่วไปแล้วแผลเป็นสามารถป้องกันได้ ฉะนั้น หากเรารู้จักวิธีการดูแลรักษาภายหลังจากที่ได้รับแผลเป็นใหม่ ๆ ก็จะสามารถป้องกันไม่ให้แผลเป็นนั้นนูนเกินหรือเป็นคีลอยด์ได้ในอนาคต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *