รู้จัก OCT เครื่องสแกนภาพตัดขวางจอประสาทตา

0

การใช้เครื่องมือพิเศษต่างๆ ทางจักษุวิทยา มีประโยชน์อย่างมากต่อวงการจักษุวิทยาในการคัดกรอง วิเคราะห์ ประเมินโรค ติดตามผล และวางแผนการรักษาโรคทางจักษุวิทยา หนึ่งในเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการติดตามการรักษา และสามารถใช้ประกอบการวินิจฉัยโรคต้อหิน และโรคของขั้วประสาทตา คือ OCT

ในการใช้เครื่องสแกนภาพตัดขวางจอประสาทตา หรือเครื่อง OCT เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศเยอรมัน และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลาย Generation ด้วยกัน ต่อมาได้มีการพัฒนาจนเป็น Spectral Domain OCT ซึ่งใช้เวลาน้อยลงแต่ได้ภาพที่ละเอียดมากขึ้นโดยสแกนเป็นแถบแบบหน้าคลื่นหน้ากระดาน เรียกว่า Raster scan จึงได้ข้อมูลมากขึ้น ช่วยให้การตรวจวินิจฉัยโรคทางจอตาแม่นยำน่าเชื่อถือมากขึ้นและผิดพลาดน้อยลง

เครื่องสแกนภาพตัดขวางจอตา (Posterior Segment Optical Coherence Tomography) ใช้เพื่อดูความผิดปกติของจอตาในแต่ละชั้น เช่น ภาวะน้ำใต้ชั้นจอตาในผู้ป่วยศูนย์กลางจอตาบวมในโรคเบาหวานขึ้นจอตา ศูนย์กลางจอตาเป็นรู หลอดเลือดผิดปกติใต้ศูนย์กลางจอตา ในผู้ที่มีจอตาเสื่อมตามอายุ และมีประโยชน์อย่างมากในการติดตามการรักษา และสามารถใช้ประกอบการวินิจฉัยโรคต้อหิน และโรคของขั้วประสาทตา

เครื่องสแกนภาพตัดขวางจอตานั้นเครื่อง OCT มีหลักการทำงานโดยใช้แสงความยาวคลื่นย่านอินฟราเรดช่วงสั้น (Near Imgrared) จากแหล่งกำเนินแสง โดยแสงจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นแสงอ้างอิง (Reference Beam) ซึ่งจะถูกส่งไปยังอุปกรณ์ตรวจวัดค่าความเข้มแสง (Photodetector) แสงอีกส่วนหนึ่งจะส่งผ่านเข้าจอตา และมีเลนส์ทำหน้าที่รับสัญญาณแสงที่สะท้อนกลับมาจากจอตา แล้วส่งต่อไปยัง (Photodetector) เพื่อประมวลผลเปรียบเทียบกับแสงส่วนแรก (Reference Beam) โดยการเลื่อนตำแหน่งของกระจกใน (Reference Arm)ไปตามตำแหน่งของแสงที่สะท้อนกลับจากจอตาแต่ละชั้น สร้างเป็นภาพตัดขวางขึ้นมา จากแต่ละจุดของจอตาในแต่ละชั้นที่มีความลึกแตกต่างกัน

นอกจากนี้ OCT ยังมีประโยชน์อย่างมากในการติดตามและบันทึกการเปลี่ยนแปลงของโรคตามผลการรักษา เช่น ติดตามผลการผ่าตัดแก้ไขรูขาดของศูนย์กลางจอตา รวมทั้งใช้ในการวินิจฉัยและติดตามในผู้ป่วยต้อหินได้ด้วย วิธีการใช้เครื่องสแกนภาพตัดขวางจอตา (OCT) การถ่ายภาพ OCT ในเครื่องที่ต่างกันนั้นไม่แตกต่างกันมากเท่าไร เทคนิคในการใช้เครื่องนั้นภาพถ่าย OCT ต้องอยู่ตรงกลางภาพเสมอเพื่อค่ามาตรฐานในการยอมรับ เมื่อสัญญาณของการถ่ายภาพครั้งนั้นออกมาไม่ดีควรตรวจสอบภาวะโรคทางตาอื่นๆ ร่วมด้วยต่อไปและควรเช็ดทำความสะอาดหน้าเลนส์สม่ำเสมอ และการถ่ายภาพเพื่อติดตามผลทุกครั้งที่ผู้ป่วยมาทำการถ่ายภาพต้องถ่ายภาพให้ตรงตำแหน่งเดิม

สำหรับการตรวจโรคต้อหิน OCT เป็นเพียงตัวช่วยสนับสนุนข้อมูลเพี่อการวินิจฉัยเท่านั้น ยังมีเครื่องมืออื่นที่ใช้ประกอบการวินิจฉัยโรคต้อหิน แต่ OCT สามารถวิเคราะห์ได้เบื้องต้นว่ามีแนวโน้มจะมีภาวะเป็นต้อหินหรือไม่ และสามารถใช้ติดตามผลการรักษาได้ จุดสำคัญที่ต้องสังเกตในการสแกนภาพตัดขวางบริเวณขั้วประสาทตาในผู้ป่วยที่มีภาวะต้อหิน คือต้องวางสแกนให้ครอบตรงกลางขั้วประสาทให้พอดีซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะถ้าผู้ถ่ายภาพครอบผิดหรือไม่ตรงกลางจะทำให้การคำนวณผิดพลาดและการวิเคราะห์ก็จะไม่ถูกต้องได้

ในยุคก่อนมีข้อจำกัดในการทำ OCT คือไม่สามารถทำท่านอนได้ ปัจจุบันสามารถทำได้ทั้งในท่านั่ง และนอน ทั้งนี้ ในการทำ OCT อาจมีข้อจำกัดในการทำได้ถ้าทางผ่านของแสงทึบเกิดได้แสงจาก OCT จะไม่สามารถผ่านเข้าไปที่จอตาได้ เช่น ในผู้ป่วยที่มีต้อกระจกตาทึบหนามากจะไม่ค่อยเห็น หรือในผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกในลูกตา หรือผู้ป่วยที่มีรูม่านตาที่เล็กกว่า 1 มิลลิเมตร เป็นต้น

ผู้ใช้เครื่องมือทางการแพทย์นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ต้องมีความรู้และประสบการณ์ ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับโรคทางจักษุและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และต้องเรียนรู้เกี่ยวกับศักยภาพของเครื่องมือทางจักษุทั้งหมดได้อย่างดี

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *