ตลอดปี 2022 ทั่วโลกต้องเผชิญทั้งโรคระบาด มลภาวะ ภัยพิบัติ รวมถึงสงคราม ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของมวลมนุษยชาติ สิ่งที่ตามมาคือวิธีดูแลสุขภาพรูปแบบใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อมและสถานการณ์โลก ว่าแล้วมาต้อนรับปีใหม่ ด้วยการแชร์เทรนด์สุขภาพที่คาดว่าน่าจะมาแรงในปี 2023
1. Gut Health Foods
พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) และโพรไบโอติกส์ (Probiotics) คือ จุลินทรีย์ขนาดเล็กชนิดดี ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหารและระบบอื่น ๆ ของร่างกายเมื่อมีจุลินทรีย์อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ข้อมูลจาก American Psychological Association ระบุว่า แบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่าง ๆ ในลำไส้ของเรา มีส่วนช่วยในการผลิตสารสื่อประสาทช่วยควบคุมกระบวนการทางจิตใจ โดยเชื่อว่า 95% ของปริมาณฮอร์โมนเซโรโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ถูกผลิตจากแบคทีเรียในลำไส้ ฉะนั้น ถ้าได้กินอาหารที่ดีต่อลำไส้ เช่น พรีไบโอติกส์ และโพรไบโอติกส์ ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของเราด้วย
2. Resting and sleep
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นปัจจัยสำคัญในการได้มาซึ่งสุขภาพที่แข็งแรง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่ายิ่งนอนนานเท่าไหร่ก็ยิ่งดี หรือจะนอนตอนไหนก็ได้ สิ่งที่เราควรโฟกัส ชั่วโมงการนอนที่เหมาะสมตามวัย และเป็นการนอนหลับที่มีคุณภาพ หมายถึง ปริมาณจำนวนการนอนที่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพในการนอน เช่น การนอนหลับอย่างเต็มตื่น หรือนอนหลับสนิท ไม่หลับ ๆ ตื่น ๆ นอกจากนี้ ร่างกายเรามีนาฬิกาชีวิตที่อวัยวะต่าง ๆ จะทำงานตามเวลาของมัน การใช้ชีวิตประจำวันให้เป็นไปตามช่วงเวลาที่อวัยวะทำงานจะทำให้อวัยวะทำงานได้ดีและสุขภาพร่างกายดียิ่งขึ้น
3. Well-being with Digital Health
เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายและง่ายขึ้น ซึ่งเรื่องสุขภาพก็เช่นกัน มีการใช้สื่อดิจิทัล มาช่วยให้ชีวิตมีคุณภาพดีขึ้น เช่น อุปกรณ์สำหรับวัดการนอนหลับ (Sleep Tracking) เพื่อปรับปรุงคุณภาพของการนอนให้ดีขึ้น, นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart Watch) มาพร้อมฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ อาทิ การนับก้าวเดินในแต่ละวัน การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, เครื่องชั่งน้ำหนัก วัดไขมัน (Body Fat Scales) ช่วยวัดค่าพื้นฐานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัว มวลกล้ามเนื้อ มวลกระดูก เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย, แอปพลิเคชันด้านสุขภาพต่าง ๆ เป็นต้น
4. Virtual Reality Workouts
เพราะโควิดยังไม่หายไปจากโลก ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ การออกกำลังกายในบ้านจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการออกไปนอกบ้านเพื่อเข้าฟิตเนส ที่สำคัญ ลืมภาพการออกกำลังกายแบบเดิม ๆ ที่อาจจะจำเจและน่าเบื่อไปได้เลย เทรนด์มาแรงของปี 2023 คือ การออกกำลังกายแบบ Virtual Reality Workouts หรือ VR Fitness Games ซึ่งเป็นการออกกำลังกายผสานการเล่นเกม โดยผู้เล่นต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์กับร่างกายตัวเองเพื่อให้ตัวละครในเกมเคลื่อนไหวตาม ผู้เล่นจะต้องทำเควสออกกำลังกายตามเกมเพื่อผ่านแต่ละด่านไปให้ได้ ชาเลนช์เหล่านี้จะช่วยให้คุณแฮปปี้กับการออกกำลังกาย
5. Mental Health and Mindfulness
สถานการณ์ทั้งเรื่องโรคระบาด สงคราม ภัยพิบัติต่างๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวโลกเกิดความเครียดสะสมไม่น้อย หนึ่งในเทรนด์สุขภาพปี 2023 จึงเน้นไปในทางการดูแลและปรับปรุงสุขภาพจิต โดยมีออกกำลังกายควบคู่กันไป เพราะการออกกำลังกายมีส่วนช่วยปรับสุขภาพจิตให้ดีขึ้นได้ด้วยนั่นเอง ที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องออกนอกบ้านไปเผชิญกับมลพิษและเสี่ยงติดเชื้อโรคต่าง ๆ เพียงเข้าแอปก็สามารถพูดคุยกับจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญได้แล้ว สะดวกสบายง่ายสุด ๆ
เทรนด์สุขภาพ เมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา และปีต่อ ๆ ไปในอนาคต อาจไม่ได้แตกต่างจากกันมากนัก แต่จะมีความก้าวหน้า แม่นย้ำ และขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น ตามการพัฒนาของเทคโนโลยีของโลก