8 เคล็ด (ไม่) ลับ ฆ่ามะเร็งร้ายด้วยอาหาร ตามแนวทาง “โภชนบำบัดแบบวะตะโย”

0

ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคนทั่วโลกจำนวนมากนั้นเกิดจากสาเหตุใด แต่เราทราบดีว่าการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน มีอยู่ 3 วิธีหลัก คือ การผ่าตัด เคมีบำบัด และฉายรังสี ซึ่งก็ยังมีข้อกังขาอยู่ว่า 3 วิธีการนี้ให้ผลที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง

ในประเทศญี่ปุ่นมีรายงานที่น่าสนใจพบว่า อัตราผู้รอดชีวิตหลังจากการผ่าตัดไปแล้ว 5 ปี มีเพียง 25% เท่านั้น หมายความว่าแม้จะผ่าตัดสำเร็จ แต่ยังคงมีผู้ป่วย 84% กลับมาเป็นซ้ำและเสียชีวิตภายใน 5 ปี

ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าแม้จะผ่าตัดแล้ว แต่ผู้ป่วยครึ่งหนึ่งก็ยังคงเสียชีวิต หากเป็นเช่นนั้นจะผ่าตัดไปเพื่ออะไรกัน!

ด้วยเหตุนี้เองทำให้ นายแพทย์ทะกะโฮะวะตะโย  เริ่มศึกษาโภชนบำบัดกับโรคมะเร็งอย่างจริงจัง จนกระทั่งจัดทำแนวทางการดื่มกินที่มีผลในการรักษาโรคมะเร็งขึ้น ซึ่งเรียกว่า “โภชนบำบัดแบบวะตะโย” และนับแต่เริ่มให้คำแนะนำด้านโภชนาการเป็นต้นมา ก็พบว่า…

%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b9%8c%e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b0%e0%b9%82%e0%b8%ae%e0%b8%b0-%e0%b8%a7%e0%b8%b0%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b9%82%e0%b8%a2-%e0%b8%9c

การเปลี่ยนแปลงการดื่มกินช่วยให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น และมีอัตรารอดชีวิตจาก 50% เป็น 66.3% และนายแพทย์ทะกะโฮะตั้งปณิธานไว้ว่าปรารถนาจะเพิ่มอัตราการหายจากโรคมะเร็งให้จงได้ จึงได้นำความรู้และประสบการณ์ในการใช้โภชนบำบัดรักษามะเร็ง มาเขียนเป็นหนังสือ “มะเร็งหายด้วยอาหาร” จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์

วันนี้จึงขอนำความรู้อันเป็นประโยชน์จากในหนังสือ “มะเร็งหายด้วยอาหาร” บางส่วนมาแบ่งปันกับผู้อ่านกัน

สาเหตุ 4 ประการจากการดื่มกินที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง

Message about excessive salt consumption.

แม้ว่าปัจจุบันเราจะไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดของโรคมะเร็งได้ แต่สาเหตุหลักของมะเร็งเท่าที่ทราบในปัจจุบัน คือ กรรมพันธุ์ ไวรัสและเชื้อโรค รังสีอัลตร้าไวโอเลต สารกัมมันตรังสี อาหาร และสารปรุงแต่งอาหารบางชนิด ตลอดจนวัตถุเคมีบางชนิด เป็นต้นนายแพทย์ทะกะโฮะวะตะโย  ได้สรุปส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาหารอันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งไว้ 4 ประเด็น

  1. การกินเกลือ/อาหารรสเค็มในปริมาณมากเกินไป ทำให้แร่ธาตุเสียสมดุล เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหาร
  2. อุปสรรคในการไหลเวียนของกรดซิตริก หากวัฏจักรกรดซิตริกดำเนินไปได้ไม่ราบรื่น จะทำให้เอทีพีไม่เพียงพอ ส่งผลให้แร่ธาตุภายใน และนอกเซลล์เสียสมดุล จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็ง
  3. การเกิดอนุมูลอิสระ (oxygen active) มากเกินไป เพราะอนุมูลอิสระทำให้เกิดออกซิเดชันทำร้ายเซลล์และสารรอบข้าง ถ้ามีอยู่ในร่างกายมากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
  4. กินโปรตีนและไขมันจากสัตว์มากเกินไป

ทั้ง 4 ปัจจัยนี้สัมพันธ์อย่างไรกับการเกิดโรคมะเร็ง มีอธิบายไว้ในหนังสืออย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งหากเราทราบสาเหตุดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันโรคมะเร็งเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการรักษาโรคมะเร็งด้วย ซึ่งติดตามอ่านต่อได้ในหนังสือ

ส่วนการกินอาหารเพื่อขจัดเซลล์มะเร็งในร่างกายอย่างได้ผลตามที่นายแพทย์ทะกะโฮะวะตะโยแนะนำให้ผู้ป่วยเป็นแนวทางพื้นฐานของการรักษาโรคมะเร็งด้วยโภชนบำบัด ขออธิบายสั้นๆ ไว้ มี 8 ประการดังนี้

vegetarian chooses salad instead of fried meat

  1. กินอาหารที่แทบไม่มีเกลือเลย
  2. จำกัดโปรตีนและไขมันจากสัตว์ (สัตว์สี่เท้า) รวมถึงเนื้อไก่และเนื้อปลา อย่างน้อยที่สุดก็จนกว่าสภาพร่างกายจะดีขึ้นในระดับหนึ่ง
  3. กินผักผลไม้ปริมาณมาก ถือเป็นกลไกสำคัญของการรักษาโรคมะเร็งด้วยโภชนบำบัด โดยบริโภค “น้ำผักผลไม้สด” 1.5-2 ลิตรต่อวันเป็นอย่างน้อย
  4. กินถั่ว ธัญพืช และจมูกข้าว ซึ่งก็คือกินข้าวกล้องและขนมปังโฮลวีตให้มาก รวมถึงกินถั่วและจมูกข้าวที่อยู่ในธัญพืช
  5. กินโยเกิร์ต สาหร่ายทะเล และเห็ด อาหารทั้ง 3 อย่างนี้ “ยกระดับภูมิคุ้มกัน” ได้ จึงถือเป็น “สารภูมิคุ้มกันธรรมชาติ” โดยเฉพาะแลคโตบาซิลลัสซึ่งสำคัญที่สุด พบได้ในโยเกิร์ต ควรกินให้ได้อย่างน้อยวันละ 300 กรัม
  6. กินน้ำผึ้ง มะนาว และยีสต์หมักเบียร์ แนะนำให้กินน้ำผึ้งวัน 2 ช้อนโต๊ะ มะนาววันละ 2 ผล ส่วนยีสต์ที่ใช้หมักเบียร์ เช่น ยากระเพาะลำไส้ หรือ EBIOS ของญี่ปุ่น กินเช้าเย็นครั้งละ 10 เม็ด
  7. กินน้ำมันมะกอกและน้ำมันงา สร้างสมดุลของกรดไขมัน ด้วยการลดน้ำมันพืชชนิดที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว n-6 และเพิ่มการกินกรดไขมันไม่อิ่มตัว n-3 กับกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมากขึ้น แต่ทั้งนี้ยังต้องระวังไม่กินน้ำมันพืชมากเกินไป
  8. ดื่มน้ำสะอาด งดเหล้า และบุหรี่ ควรเลือกดื่มน้ำธรรมชาติ หรือน้ำสะอาดจากเครื่องกรอง โดยดื่มอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร (รวมกับน้ำในอาหารด้วย) ส่วนเหล้าและบุหรี่ เป็นสิ่งที่ผู้ป่วยควรงดอย่างเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม ไม่ควรปฏิเสธการรักษาโรคมะเร็งตามวิธีของแพทย์แผนปัจจุบัน แต่วิธีรักษามะเร็งที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการรักษาแบบบูรณาการ โดยใช้การรักษาหลัก 3 ประการ คือ การผ่าตัด เคมีบำบัด และฉายรังสี ควบคู่ไปกับโภชนบำบัด ซึ่งช่วยปรับสารอาหารให้ดีขึ้น ปรับการเผาผลาญ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ทำให้อัตราการรักษา หายสูงขึ้นอย่างแน่นอน

Vegetables, fruit, seeds, cereals, beans, spices, superfoods, herbs, condiment in wooden box for vegan, gluten free, allergy-friendly, clean eating and raw diet. Grey concrete background and top view

ยิ่งไปกว่านั้น คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยก็จะดีขึ้นอีกด้วย รวมไปถึง “จิตใจที่เข้มแข็ง” ของผู้ป่วยและ “กำลังใจ” ของคนรอบข้างที่จะขาดเสียไม่ได้  หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังเผชิญโรคร้ายนี้ และพบเจอทางรักษาของตัวเองและหายในที่สุด


พบกับสาระความรู้เรื่องโภชนบำบัดรักษามะเร็งอีกมากมายได้ในหนังสือ “มะเร็งหายด้วยอาหาร” จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ ราคา 295 บาท  วางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อ โทร. 0-2662-3000 กด 0  www.nanmeebooks.com   www.facebook.com/nanmeebooksfan

%e0%b8%9b%e0%b8%81_%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b9%87%e0%b8%87%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *