“โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน” ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด

0

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือ โรคเมเนียร์ (Meniere’s disease) พบค่อนข้างบ่อย เป็นโรคที่พบอันดับสองของสาเหตุอาการเวียนศีรษะ มักเป็นหูข้างใดข้างหนึ่งก่อน และมีประมาณร้อยละ 15-20 ที่เป็นหูทั้งสองข้างพบบ่อยในครอบครัวที่เป็นไมเกรน ภาวะร่างกายมีภูมิต้านทานต่อหูชั้นใน พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอัตราส่วน 2 : 1 และเมื่ออายุเพิ่มขึ้นจะมีความเสี่ยงที่มากขึ้นด้วยโดยช่วงอายุที่พบมากที่สุดคือระหว่าง 40-70 ปี

สาเหตุของโรคน้ำในหูไม่เท่ากันนั้นส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดแต่มีตัวกระตุ้นอยู่หลายปัจจัย เช่นกรรมพันธุ์ มีโครงสร้างหูชั้นในผิดปกติแต่กำเนิด, โรคภูมิแพ้, การติดเชื้อไวรัส, หูชั้นกลางอักเสบ, หูน้ำหนวก, ซิฟิลิส, เคยประสบอุบัติเหตุที่ศีรษะ, โรคทางกาย เช่น เบาหวาน, ไทรอยด์, ไขมันในเลือดสูง

“โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน” ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด (2)

อาการของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

  1. อาการเวียนศีรษะ อาการเกิดขึ้นทันทีทันใด อยู่เฉยๆ ก็เป็นขึ้นมาและคงอยู่นานเกินกว่า 20 นาทีและอาจรุนแรง แต่ไม่ทำให้หมดสติหรือเป็นอัมพาต อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เหงื่อออก, คลื่นไส้, อาเจียน
  2. การได้ยินลดลง ขณะมีอาการเวียนศีรษะ ซึ่งระยะแรกอาจเป็นๆ หายๆ การได้ยินมักจะดีขึ้นเมื่ออาการเวียนศีรษะหายไป แต่ถ้าเป็นซ้ำๆ กันหลายๆ ครั้ง การได้ยินมักจะเสื่อมลงเรื่อยๆ และไม่กลับคืนมาจนหูตึงได้
  3. หูอื้อ เสียงดังในหู ซึ่งเกิดขึ้นในหูข้างที่ผิดปกติ อาจเป็นตลอดเวลาหรือเฉพาะเวลาเวียนศีรษะก็ได้
  4. อาการหนักๆ หน่วงๆ ในหูคล้ายมีแรงดันในหู บางคนอาจบอกว่าปวดหน่วงๆความถี่ของอาการแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเป็นปีละครั้ง บางคนเป็นหลายๆ เดือนครั้ง ไม่แน่นอน

“โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน” ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด (1)

ถึงแม้โรคเมเนียร์จะไม่มีวิธีรักษาที่ทำให้โรคหายขาด แต่อาการของผู้ป่วย ส่วนใหญ่สามารถควบคุมได้ด้วยยา และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องโดยการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเวลาเวียนศีรษะ ได้แก่

  1. เมื่อมีอาการเวียนศีรษะขณะเดินหรือทำงาน ควรหยุดเดิน หยุดทำงานและนั่งพัก เพราะการฝืนเดินหรือทำงานขณะเวียนศีรษะ อาจทำให้ผู้ป่วยล้ม เกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าเวียนศีรษะมากควรนอนบนพื้นราบที่ไม่มีการเคลื่อนไหว เช่น พื้น และผู้ป่วยควรมองไปยังวัตถุที่อยู่นิ่ง ไม่เคลื่อนไหว
  2. รับประทานยาที่แพทย์ให้รับประทานเวลาเวียนศีรษะ
  3. พยายามอย่ารับประทานหรือดื่มมากนัก จะได้มีโอกาสอาเจียนน้อยลง
  4. หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยทางเรือ เพราะจะทำให้มีอาการเวียนศีรษะมากขึ้นได้
  5. ถ้าอาการเวียนศีรษะน้อยลง ค่อยๆ ลุกขึ้น แต่อาจรู้สึกง่วงหรือเพลียได้ แนะนำให้นอนหลับพักผ่อน ถ้าง่วงหลังตื่นนอน อาการมักจะดีขึ้น

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *