“อีสุกอีใส” ระบาด! ไม่อยากเสี่ยงต้องป้องกัน

0

“โรคอีสุกอีใส” เกิดจากเชื้อไวรัส ที่มีชื่อว่า วาริเซลลา (Varicella virus) ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกับที่ทำให้เป็นโรคงูสวัด โดยในประเทศไทยช่วงฤดูหนาวถึงต้นฤดูฝน (เดือน ม.ค.- มี.ค.) ทุกปี มักพบการระบาดของโรคอีสุกอีใสไม่อยากให้คุณและคนที่รักเจ็บป่วยด้วยโรคนี้ เรามารู้จักและเตรียมรับมือกับอีสุกอีใสกันค่ะ

ข้อมูลจากสาธารณสุข พบว่า ในปีนี้ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 19 ก.พ. พบผู้ป่วยอีสุกอีใสแล้ว 8,064 ราย

แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต โดยโรคอีสุกอีใส ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรง ทั่วไปไม่พบโรคแทรกซ้อน แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการทางสมองและปอดบวมได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิด ผู้ที่กินยากดภูมิต้านทาน ทารกแรกเกิด สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

shutterstock_522031540

โดยเชื้อไวรัสที่ก่อโรคอีสุกอีใสจะกระจายตัวอยู่ในอากาศ ติดต่อทางการหายใจเอาละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย การใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย การคลุกคลีใกล้ชิด สัมผัสน้ำเหลืองจากตุ่มพองใสที่ผิวหนังของผู้ป่วย ซึ่งหลังรับเชื้อประมาณ 10 – 20 วัน จะเริ่มเกิดอาการ มีไข้ต่ำๆ ต่อมาจะมีผื่นขึ้นที่หนังศีรษะ หน้า ตามตัว โดยเริ่มเป็นผื่นแดง ตุ่มนูน แล้วเปลี่ยนเป็นตุ่มพองใสในวันที่ 2-3 วัน หลังจากเริ่มมีไข้

หลังจากนั้นตุ่มจะเป็นหนอง เริ่มแห้งตกสะเก็ด รวมเวลา 5-20 วัน ผื่นอาจขึ้นในคอ ตา และในปาก เมื่อเป็นแล้วจะมีภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต แต่เชื้ออาจหลบอยู่ในปมประสาทและมีโอกาสเป็นโรคงูสวัดได้ภายหลัง

การป้องกันโรคทำได้โดยล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ใช้กระดาษทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้า ปิดปากปิดจมูกทุกครั้งเวลาไอ จาม หลีกเลี่ยงสถานที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ไม่คลุกคลีใกล้ชิด และไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย ควรแยกผู้ป่วยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

นอกจากนี้ ในกลุ่มเด็กที่ยังไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อนผู้ปกครองอาจพาบุตรหลานไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส 2 ครั้ง โดยครั้งแรกให้ฉีดเมื่ออายุ 12-18 เดือน และฉีดครั้งที่สองเมื่ออายุ 4-6 ปี ในกรณีที่ไม่ได้ฉีดเข็มแรกตามอายุที่กำหนด ให้ฉีดเข็มแรกและเข็มที่สองเว้นระยะห่างอย่างน้อย 3 เดือน สำหรับวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไปจะให้ฉีดวัคซีนเช่นกัน 2 ครั้ง แต่ให้ฉีดห่างกันอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์

ทั้งนี้ หากสมาชิกในครอบครัวเป็นอีสุกอีใสให้หยุดเรียนหรือหยุดงานจนกว่าจะพ้นระยะการติดต่อ คือแผลตกสะเก็ดและแห้งไป (ประมาณ 5 วันหลังเริ่มมีอาการ) เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *