แม้ว่าอาหารมังสวิรัติไม่ใช่ของใหม่ แต่ก็กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ มันรวมหลักการของมังสวิรัติกับผู้ที่กินอาหารดิบหรือ Raw Food ในขณะที่บางคนอาจเลือกที่จะปฏิบัติตามเหตุผลในด้านจริยธรรมหรือสิ่งแวดล้อม แต่ถึงแบบนั้นส่วนใหญ่ทำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการลดน้ำหนัก สุขภาพหัวใจที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน
เพื่อนๆ คงเคยได้ยินคำพูดจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและอาจมาจากการแนะนำของเพื่อนสนิท “คอลลาเจน” ชื่อที่เราสามารถพบได้ในทุกอย่างตั้งแต่ครีมและเครื่องสำอางจนถึงผงและยา คอลลาเจนมีอยู่ในกล้ามเนื้อผิวหนังเลือด กระดูก กระดูกอ่อนและเอ็น รวมทั้งอยู่ในกระบวนการอื่นๆ
ในขณะที่อาหารเช้าเป็นอาหารที่สำคัญที่สุดในแต่ละวัน แต่บางครั้งอาจมีตัวเลือกน้อยแถมยังซ้ำๆ กัน เป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่มาดามอยากให้เพื่อนๆ ลองเพิ่มความท้าทายใหม่ให้มื้อเช้าด้วย “ขิง”
หลายคนพอพูดเรื่องของ “การลดน้ำตาล” มักคิดถึงเรื่องของการลดอ้วน แน่นอนว่ามันมีผลกระทบต่อกันอย่างชัดเจน แต่ในแง่ของสุขภาพแล้ว น้ำตาลก็มีผลด้วยเช่นเดียวกัน เพราะโรคเรื้อรังส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากน้ำตาล
เป็นหวัดคิดถึงวิตามินซี อยากผิวสวยก็คิดถึงวิตามินซี เรียกได้ว่าเป็นความเชื่อจนสร้างค่านิยมที่ทำให้วิตามินซีเป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีบทบาทในชีวิตประจำวัน แต่บางความเชื่ออาจไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวิตามินซีก็ได้นะ
การดูแลผิวของเพื่อนๆ หมายถึงการรวมกันของการเลือกคลีนเซอร์ มอยเจอร์ไรเซอร์ โทนเนอร์ หรือว่าเซรั่ม… ใช่มั้ย? แต่บางทีสุขภาพผิวที่ดีนั้นอาจเริ่มต้นจากสิ่งที่อยู่ภายในร่างกายของเรา และไม่ได้หมายรวมถึงแค่แต่ผิวหน้าเท่านั้นนะคะ
หนึ่งในชาชงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือชาเอิร์ลเกรย์ (Earl Grey) ซึ่งเป็นชาที่ได้มาจากการผสมผสานระหว่างชาดำและน้ำมันมะกรูดซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากเปลือกของมะกรูดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นประโยชน์ต่อร่างกายนับไม่ถ้วนและมีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอย
นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง Coconut Oil หรือ “น้ำมันมะพร้าว” นั่นเอง แต่มีอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มาจากมะพร้าวเหมือนกันเรียกว่า “เนยมะพร้าว” หรือ Coconut Butter
เพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการกินอยู่หรือเปล่า? หมกหมุ่นอยู่กับการลดน้ำหนัก แต่เมื่อเวลาอยู่คนเดียวกลับกินทุกอย่างและรุนเรงจนถึงขั้นล้วงคอเพื่ออาเจียนเอาอาหารที่กินออกมา
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น เราจะค่อยๆ เกิดอาการหลงลืมง่าย โดยอายุราว 35 ปีขึ้นไปจะเริ่มลืมโน่นลืมนี่ พอเมื่ออายุ 42 ปี ความจำเราจะลดลง 20% และเมื่ออายุ 70 ปี ความจำจะเทียบเท่ากับเด็กอายุ 10 ปี