การพิชิตสิวด้วยตัวเองนั้นมีหลากหลายวิธี คุณสามารถลองใช้วิธีรักษาธรรมชาติเพื่อจัดการสิวได้ และนี่คือบางส่วนที่น่าสนใจค่ะ

1. น้ำมันทีทรี

น้ำมันทีทรีซึ่งขึ้นชื่อในด้านคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ สามารถช่วยต่อสู้กับแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวได้ ทาน้ำมันทีทรีลงบนบริเวณที่ได้รับผลกระทบด้วยสำลีพันก้านหลังจากเจือจางด้วยน้ำมันตัวพา (เช่น น้ำมันมะพร้าว) ก่อนที่จะล้างออก ให้ทิ้งไว้สั 2-3 ชั่วโมงหรือข้ามคืน

2. ว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติฟื้นฟูและช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมการรักษาผิวหนัง ทาเจลว่านหางจระเข้สดโดยตรงในบริเวณที่มีปัญหา ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก สัปดาห์ละหลายครั้ง ทำซ้ำขั้นตอนนี้ได้

3. สะเดา

สะเดามีคุณสมบัติต้านจุลชีพที่มีประสิทธิภาพและสามารถช่วยจัดการกับการกระจายของสิวได้ ทายาพอกที่ทำจากใบสะเดาสดและน้ำเปล่าลงบนบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ก่อนจะล้างออก ให้ปล่อยทิ้งไว้ 15 ถึง 20 นาที

4. มาส์กน้ำผึ้งและอบเชย 

ในการทำครีมพอก ให้ผสมน้ำผึ้งและผงอบเชยในปริมาณเท่าๆ กัน ควรทาลงบนใบหน้าและทิ้งไว้ประมาณ 10 ถึง 15 นาทีก่อนล้างออก อบเชยช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและลดการอักเสบ ในขณะที่น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย

5. มาสก์ขมิ้น

ขมิ้นมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านจุลชีพที่สามารถรักษาสิวได้ หากต้องการทำเป็นครีม ให้ผสมน้ำหรือน้ำผึ้งเล็กน้อยกับผงขมิ้น ควรทาบริเวณที่มีปัญหาและทิ้งไว้ 15 ถึง 20 นาทีก่อนล้างออก

6. โทนเนอร์น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล

ให้เจือจางน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลดิบและไม่ผ่านการกรองกับน้ำในอัตราส่วน 1:3 ในฐานะโทนเนอร์ ให้ทาส่วนผสมบนผิวของคุณด้วยสำลีก้อน น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิวหนัง อย่างไรก็ตาม หากคุณมีผิวแพ้ง่าย คุณควรทำการทดสอบผ่านแผ่นแพทช์ก่อน

7. ลูกประคบชาเขียว

ทำชาเขียว 1 แก้วแล้วพักไว้ให้เย็น แช่ผ้าสะอาดหรือสำลีลงในชาแล้วใช้ประคบบนใบหน้าเป็นเวลา 10-15 นาที ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยลดการอักเสบและควบคุมการผลิตน้ำมันได้

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางหรือตัวยที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ มีการรักษาสิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์หลากหลาย ต่อไปนี้เป็นสารทั่วไปบางประการที่ควรมองหาในการรักษาสิวก่อนซื้อ

1. เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ 

เป็นส่วนผสมอันทรงพลังที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวและช่วยในการไม่อุดตันของรูขุมขน มีคุณสมบัติต้านการอักเสบเช่นกัน มองหาน้ำยาทำความสะอาด ครีม หรือเจลที่มีความเข้มข้นของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ตั้งแต่ 2.5% ถึง 10% เริ่มต้นด้วยความเข้มข้นต่ำลงเพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคืองผิวหนังและค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามความจำเป็น

2. กรดซาลิไซลิก

 กรดซาลิไซลิกเป็นกรดเบต้าไฮดรอกซีที่ช่วยขัดผิวและช่วยในการไม่อุดตันของรูขุมขน มีคุณสมบัติต้านการอักเสบเช่นกัน มองหาคลีนเซอร์ โทนเนอร์ หรือทรีตเมนต์เฉพาะจุดที่มีกรดซาลิไซลิก เริ่มต้นด้วยความเข้มข้นต่ำ (ประมาณ 0.5% ถึง 2%) จากนั้นค่อยๆ เพิ่มตามความจำเป็น

3. เรตินอยด์

อนุพันธ์ของวิตามินเอ เช่น อะดาพาลีน ส่งเสริมการหมุนเวียนของเซลล์ผิว ป้องกันรูขุมขนอุดตัน และลดการอักเสบ มีจำหน่ายในรูปแบบเจลและครีม เริ่มต้นด้วยความเข้มข้นต่ำและใช้ตามที่กำหนดไว้เท่านั้น เนื่องจากอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนใช้เรตินอยด์

4. ซัลเฟอร์

 ซัลเฟอร์มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและทำให้แห้ง ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินและการไม่อุดตันของรูขุมขน หากต้องการกำหนดเป้าหมายบริเวณที่เป็นสิวโดยเฉพาะ ให้มองหาทรีตเมนต์หรือมาส์กเฉพาะจุดที่มีซัลเฟอร์เป็นหลัก

5. กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHAs)

AHAs ขัดผิวและช่วยให้สิวดูดีขึ้น ตัวอย่าง ได้แก่ กรดไกลโคลิก กรดแลคติค และกรดซิตริก นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการทำให้รอยแผลเป็นจากสิวจางลงและช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอยิ่งขึ้น มองหาคลีนเซอร์หรือโทนเนอร์ที่มี AHA ที่มีความเข้มข้นต่ำ

6. ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่

การรักษาสิวที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์บางชนิดรวมถึงยาปฏิชีวนะเฉพาะที่ เช่น คลินดามัยซินหรืออีริโธรมัยซิน ยาปฏิชีวนะเหล่านี้ช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวและลดการอักเสบ อย่างไรก็ตาม การใช้ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่ในระยะยาวอาจทำให้เกิดการดื้อยาปฏิชีวนะได้ ดังนั้นจึงควรขอคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง

สำหรับคนที่อยากดูแลเรื่องปัญหาสิว หรือรอยดำและรอยแดงจากสิว อย่าง Hiruscar Post Acne เป็นเจลใส ซึมสู่ผิวได้เร็วเป็นแบบแต้มสิว ช่วยดูแลปัญหาผิวจากสิว ได้แก่ รอยสิว หลุมสิว รอยดำสิว รอบแดงสิว และยังลดการอักเสบและการเกิดสิวใหม่ ไร้แอลกอฮอล์ที่อาจจะกระตุ้นให้ผิวแห้ง อีกทั้งยังมีกสารสกัดของธรรมชาติอย่าง  MPS , Allium Cepa , VitaminB3 ให้แผลนุ่ม ชุ่มชื้น ปรับสีของรอยสิวให้เรียบเนียนสมํ่าเสมอ