ยาหรือสารสกัดตัวใหม่ที่อิงจาก “แคปไซซิน” สารประกอบที่ได้จาก “พริก” ช่วยลดน้ำหนักในระยะยาวและการเผาผลาญอาหารที่ดีขึ้นในหนูกินอาหารที่มีไขมันสูงในจากการศึกษาโดย คณะเภสัชศาสตร์ University of Wyoming
ซึ่งยาตัวนี้เรียกว่า “Metabocin” ถูกออกแบบมาเพื่อปล่อยแคปไซซินออกไปช้าๆ ตลอดทั้งวันเพื่อที่จะสามารถออกฤทธิ์ต่อต้านโรคอ้วนได้โดยไม่ก่อให้เกิดการอักเสบหรืออาการข้างเคียง
“เราสังเกตเห็นการปรับปรุงน้ำตาลในเลือดและระดับคอเลสเตอรอลการตอบสนองต่ออินซูลินและอาการของโรคตับไขมัน”
Dr. Baskaran Thyagarajan นักวิจัยนำ อธิบายว่า Metabocin กลับมีผลเสียหายมากมายจากอาหารที่มีไขมันสูง เขาได้นำเสนอผลการวิจัยในสัปดาห์นี้ที่การประชุมประจำปีของ Society for Study of Ingestive Behavior ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างประเทศชั้นนำของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอาหารและปริมาณของเหลว
ทีมงานวิจัยได้พัฒนา Metabocin ซึ่งสามารถทานได้เพื่อกำหนดเป้าหมายผู้รับที่เรียกว่า TRPV1 (receptor potential receptor potential vanilloid subfamily 1) ที่มีจำนวนเซลล์ไขมันสูง กระตุ้น กลุ่ม TRPV1 ทำให้เซลล์ไขมันสีขาวเริ่มต้นการเผาผลาญพลังงานแทนการเก็บรักษาซึ่งในทางทฤษฎีจะทำให้น้ำหนักลดลง
คำถามที่สำคัญสำหรับนักวิจัยก็คือว่ายายังคงมีประสิทธิภาพเมื่อ “ใช้ในระยะยาว” หรือไม่และ “มีผลกระทบ” หรือไม่?
จากการทดลองนั้นพบว่า กลุ่มหนุทดลองที่ยังได้รับยากลุ่มนี้เป็นเวลา 8 เดือน น้ำหนักยังคงที่ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีหลักฐานเพิ่มเติมในเรื่องของความปลอดภัยและผลข้างเคียง อาจต้องมีการทดลองต่อเนื่องนั่นเอง
โรคอ้วนเป็นที่น่าห่วงต่อสุขภาพของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับ Metabolic ได้แก่ โรคเบาหวานประเภท 2 โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดและโรคหัวใจ โดยปัจจุบัน 1 ใน 3 คนทั่วโลกมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
การออกกำลังกายและการรับประทานอาหารเป็นคำแนะนำมาตรฐาน แต่เป็นเรื่องยากสำหรับคนส่วนใหญ่ที่จะรักษาในระยะยาวและการฟื้นตัวของน้ำหนักตัวที่ดีขึ้น
ดังนั้น การศึกษานี้ก็เพื่อต้องการชี้นำแนวทางอีกหนึ่งแนวทางในการรักษาโรคอ้วน ลดน้ำหนัก นักวิจัยซึ่งสนับสนุนการดำเนินการต่อเพื่อหาทางเลือกทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพในระยะยาวเพื่อต่อต้านโรคอ้วนและผลกระทบจากการเผาผลาญอาหารเพื่อช่วยผู้ที่ต้องการรักษาน้ำหนักให้ดีขึ้น
อย่างไรก็ดี ความเชื่อที่ว่า การกินอาหารเผ็ดจะช่วยลดน้ำหนักนั้น อาจยังไม่เวิร์คเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่แล้วแคปไซซินนั้นจะไม่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเท่าที่จะช่วยลดอ้วนได้ดีตามที่หลายคนคาดหวัง และงานวิจัยนี้เป็นการปรับปรุงการดูดซึมที่ดีขึ้นเพื่อปล่อยสารนั่นเองครับ
ที่มา: Anti-obesity drug derived from chili peppers shows promise in animal trials
โดย Society for the Study of Ingestive Behavior, Sciencedaily.com