หลัก 4 ล. บอกลาบุหรี่ด้วยตนเอง ครอบครัวปลอดภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า
บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายไม่ต่างจากบุหรี่มวน ไม่อยากเสี่ยงสุขภาพพังจากบุหรี่ ทุกคนในครอบครัวต้องตระหนักรู้ถึงอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า
บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายไม่ต่างจากบุหรี่มวน ไม่อยากเสี่ยงสุขภาพพังจากบุหรี่ ทุกคนในครอบครัวต้องตระหนักรู้ถึงอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า
จะวัยไหนก็ยังคงรักสวยรักงามอยู่เสมอ ด้วยทริคง่ายๆ จากเราที่คุณสามารถทำเองได้
สถานการณ์การสูบบุหรี่ในปัจจุบันเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ พบจำนวนผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.68 พันล้านคน อัตราการเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่เพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคน เรียกได้ว่า บุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบและบุคคลใกล้เคียง ฉะนั้น หากมีสมาชิกในบ้านสูบบุหรี่ ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัว
เชื่อว่าเพื่อนๆ น่าจะเคยได้ยิน “น้ำลูกยอ” และหลายคนก็น่าจะเคยได้ลิ้มลองรสชาติมาบ้างแล้ว น้ำลูกยอเป็นเครื่องดื่มเขตร้อนที่ได้มาจากผลของต้นยอ เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ใช้มาอย่างยาวนาน เพราะช่วยรักษาปัญหาสุขภาพ
ครั้งสุดท้ายที่เพื่อนๆ เช็คสุขภาพคือเมื่อไหร่? โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของระดับความเครียด สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงผลกระทบจากความเครียดต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ หลังจากที่ทุกความเครียดมีมากเกินไป
ชอบดื่มนมเปรี้ยวกันหรือเปล่า? มีผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตเกียว นำโดยศาสตราจารย์ยะซูโอะ โอะฮะชิ (Yasuo Ohashi) ได้ทำการสำรวจผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะพบว่า ผู้ที่ดื่มนมเปรี้ยวเป็นประจำทุกวันมีอัตราการเกิดโรคน้อยลงกว่า 50% เลยทีเดียว!
เพื่อนๆ กำลังสูบบุหรี่อยู่หรือเปล่า… หรือมีคนใกล้ชิดสูบบุหรี่เป็นประจำหรือไม่? จากบทความเรื่อง สูบบุหรี่ ทำเสี่ยง “สมองเสื่อม” ได้อีก! บอกว่า “การศึกษาฉบับใหม่ที่เผยแพร่ในวารสาร Radiology ผู้ที่สูบบุหรี่หรือมีโรคเบาหวานอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อม”
มะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่ร้ายกาจที่สุดในโลกและ 80% ของความตายนี้นั้นเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ นอกเหนือจากการควบคุมการใช้บุหรี่แล้วจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์การปรับโครงสร้างทางเคมีอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยในการรักษาและป้องกัน
มีเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้เราเริ่มต้นหันมามองการกินผักผลไม้ให้มากขึ้น และเลือกลดการกินเนื้อลง เพราะนอกเหนือจากยาปฏิชีวนะที่อยู่ในเนื้อแล้ว การกินเนื้อมากๆ ยังไม่ส่งผลดีกับสุขภาพ
การใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกวันสามารถทำให้อัตราการเกิดโรคหัวใจวายได้เกือบเท่าตัวจากการสำรวจของผู้คนเกือบ 70,000 คน นำโดยนักวิจัยจาก UC San Francisco