ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านนี้ เราจะเห็นคนใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ทั้งการออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือในฟิตเนส หรือแม้กระทั่งการกินคลีนเองก็ได้รับความนิยมเช่นกัน แต่ที่เห็นได้เด่นชัดคือ การวิ่ง ทั้งวิ่งช้าและวิ่งเร็ว เพราะปัจจุบันมีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการวิ่งมากมายหลายรูปแบบ และจะเห็นว่าในกิจกรรมแต่ละครั้ง ก็มีคนเข้าร่วมจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งถ้าใครได้เริ่มต้นวิ่งแล้ว เชื่อเถอะว่าทุกคนย่อมอยากไปประลองฝีมือในสนามมาราธอน เพราะมันคือความท้าทายอย่างหนึ่งของนักวิ่งที่ต้องการลงสนามจริง ไม่ว่าจะเริ่มต้นวิ่งด้วยระยะทางไหน ก็ล้วนแต่ต้องมีการเตรียมพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ สำหรับการวิ่งมาราธอน
มาดูกันว่า ก่อนวิ่งมาราธอนต้องเตรียมตัวอย่างไร เพื่อให้ถึงเส้นชัยอย่างปลอดภัย
1. หลังจากฝึกซ้อมมาอย่างยาวนาน ก่อนการแข่งขัน 1 วัน ควรจะหยุดซ้อมเพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้นกำลังอย่างเต็มที่
2. คืนก่อนวันแข่ง ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะต้องตื่นแต่เช้า ประมาณตี 3-4
3. เตรียมผ้าซับเหงื่อ ผ้าคาดหัวให้พร้อม ควรไปถึงสนามก่อนสัก 20 นาที เพื่ออบอุ่นร่างกาย และเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย จะได้พกนาฬิกาจับเวลาได้ติดตัวเอาไว้ด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าใช้เวลาในการวิ่งนานแค่ไหน เพื่อใช้เปรียบเทียบในการวิ่งครั้งต่อไป
4.ก่อนปล่อยตัว จะมีการ checked in โดยใช้ปากกาเมจิกขีด1 เส้น บนเบอร์วิ่ง เพื่อเป็นการเช็คว่าเราออกจากจุดสตาร์ทจริงๆ แนะนำนักวิ่งหน้าใหม่ที่ยังวิ่งช้าควรอยู่หลังขบวน เพื่อป้องกันการถูกเบียดชนจากผู้แข่งขันท่านอื่นๆ
5.ในช่วงแรกของการออกตัว ให้วิ่งช้าๆ ไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งเร่ง และค่อยๆ เพิ่มความเร็วหลังจุดให้น้ำจุดแรกหรือจุดที่2 จะดีกว่าค่ะ แนะนำให้นักวิ่งทุกท่านแวะรับน้ำที่จุดให้น้ำทุกจุด โดยก่อนถึงสัก 10 เมตร เปลี่ยนเป็นเดินไปรับน้ำและเดินต่อไปอีก 10-20 เมตร เพื่อเป็นการพักไปในตัว และควรดื่มน้ำสัก 2-3 อึกก็พอ เพื่อป้องกันอาการจุก น้ำที่เหลือนำมาราดแขน ราดหัวตามสะดวก และที่สำคัญห้ามทิ้งแก้วน้ำขว้างทางนักวิ่งคนอื่นๆ ให้เพิ่มความเร็วในช่วงกิโลเมตรที่ 8-9 หรือช่วงสุดท้ายเข้าเส้นชัย จะได้มีแรงวิ่งเข้าอย่างมั่นใจ
6.ช่วงวิ่งเข้าเส้นชัยครั้งแรกของนักวิ่งหน้าใหม่ จะมีความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองอย่างมาก หลังการที่ฝึกซ้อมมาเป็นระยะเวลานาน
7. ถ้าในระหว่างวิ่งรู้สึกจุก เจ็บข้อ หรือหายใจไม่ทัน ให้เปลี่ยนเป็นเดินแทน เพื่อเป็นการ WARM-DOWN ให้ร่างกายผ่อนการทำงานทีละน้อย เลือดที่ไปคั่งตามกล้ามเนื้อมากๆ จะค่อยๆ กระจายไปสู่อวัยวะสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ และหากหยุดเดินแล้วอาจต้องยกขาให้สูงเพื่อช่วยการไหลเวียนของเลือดกลับสู่หัวใจและสมองได้รวดเร็ว ซึ่งมีผลทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้รวดเร็วขึ้น แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น อย่าฝืน ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ซึ่งจะประจำอยู่ตลอดเส้นทางวิ่ง เพื่อให้รถพยาบาลมารับได้ทันท่วงที
นี่เป็นเพียง 7 วิธีเตรียมตัว เตรียมใจก่อนวิ่งมาราธอนเบื้องต้นค่ะ บางคนอาจคิดว่าแค่อยากวิ่งเฉยๆ ไม่ได้หวังแข่งกับใคร มาราธอนเนี่ยแหละ ที่เหมาะกับคุณที่สุด เพราะมันคือกีฬาที่ต้องแข่งกับตัวเอง วิ่งบนลู่วิ่งทุกวัน ก็ไม่มีทางเข้าใจถึงบรรยากาศของมาราธอนแน่นอน ลองดูสักครั้ง รับรองจะติดใจ