การอุ้มและการโอบกอดของแม่มีความสำคัญต่อพัฒนาการของลูก และมีผลมากกว่าการกระตุ้นใด ๆ ในช่วงแรกเกิดจนถึงขวบปีแรก ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ท่าอุ้มทารกที่ใช้บ่อยมีหลายท่า แต่แม่ไม่จำเป็นต้องทำได้ทุกท่า ควรเลือกที่สามารถทำได้ ถนัด และผ่อนคลาย และนี่คือ วิธีอุ้มลูก และท่าอุ้มลูกรูปแบบต่าง ๆ ที่แม่มือใหม่ต้องรู้
วิธีอุ้มลูกขึ้นเมื่อลูกกำลังนอนอยู่ ทำโดยใช้แขนทั้งสองข้างช้อนตัวลูกขึ้นมา โดยมือข้างหนึ่งรับน้ำหนักที่ก้น ส่วนอีกข้างหนึ่งประคองศีรษะไว้หรือสอดนิ้วโป้งไว้ใต้รักแร้ลูก แล้วกางนิ้วที่เหลือออกไว้ด้านหลังเพื่อประคองศีรษะ สำหรับจุดสังเกตที่ดูว่าแม่สามารถอุ้มทารกน้อยได้ถูกต้อง คือ
1. ศีรษะและลำตัวอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน
2. ลูกหันหน้าเข้าหาเต้าแม่
3. ลำตัวลูกชิดกับตัวแม่
4. ตัวลูกได้รับการประคับประคองรับอย่างมั่นคง โดยมีมือแม่หรือหมอนรองซ้อนไว้
5. แม่ควรนั่งหลังตรงตามสบาย ไม่เกร็ง ไม่โน้มตัวไปข้างหน้า หรือเอนไปด้านหลังมากเกินไป
ท่าอุ้มลูกรูปแบบต่าง ๆ
1. ท่านอนขวางบนตัก โดยศีรษะลูกวางบนข้อศอก (Cradle hold position) เป็นท่าที่อุ้มลูกไว้บนตัก ใช้มือและแขนข้างเดียวกับเต้าที่จะให้ลูกดูดประคองลูกไว้ ให้ลูกนอนตะแคงเข้าหาตัวแม่ ศีรษะอยู่สูงเล็กน้อย ท้ายทอยลูกวางอยู่บริเวณแขนของแม่ มืออีกข้างประคองเต้านมไว้
2. ท่าลูกนอนขวางบนตัก โดยใช้ฝ่ามือประคองศีรษะลูก (Modified/ Cross hold position) คล้ายท่าแรกเปลี่ยนมือและแขนข้างที่ใช้อุ้มลูกมาจับเต้านม ส่วนมืออีกข้างประคองต้นคอและท้ายทอยลูกแทน ท่านี้จะช่วยในการควบคุมการเคลื่อนไหวของศีรษะลูก
3. ท่าอุ้มลูกด้านข้าง (Clutch hold/ Football hold position) ลูกอยู่ในท่ากึ่งตะแคงกึ่งนอนหงาย มือจับที่ต้นคอและท้ายทอย กอดลูกให้กระชับกับสีข้างแม่และขาลูกชี้ไปทางด้านหลังแม่ ลูกดูดนมจากเต้านมข้างเดียวกับมือที่จับลูก ส่วนมืออีกข้างประคองเต้านมไว้ ท่านี้เหมาะสำหรับแม่ที่ผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ลูกแฝด ลูกตัวเล็ก แม่เต้านมใหญ่ เป็นต้น
4. ท่านอน (Side lying position) แม่ลูกนอนตะแคงเข้าหากัน แม่นอนศีรษะสูงเล็กน้อย หลังและสะโพกตรง ให้ปากลูกอยู่ตรงกับหัวนมแม่ ใช้แขนข้างหนึ่งประคองตัวลูกให้ชิดลำตัวแม่ อาจใช้ผ้าม้วนหรือหนุนหลังลูกแทนแขนแม่ ท่านี้เหมาะสำหรับแม่ที่อ่อนเพลียหลังคลอด หลังผ่าคลอด หรือให้นมลูกตอนกลางคืน
5. ท่าเอนตัว (Laid-back hold position) แม่เอนตัวนอนไปด้านหลัง วางลูกไว้บนหน้าอก ใช้มือโอบลูกไว้ เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหว หรือการเลื่อนไหลของลูก ให้ตำแหน่งศีรษะของลูกเอียงเล็กน้อย เพื่อป้องกันการปิดกั้นทางเดินหายใจ
6. ท่าตั้งตรง (Upright/ Standing baby position) อุ้มลูกให้อยู่ในท่าตั้งตรง ขาลูกคร่อมต้นขาแม่ ศีรษะและลำตัวของลูกเอนเล็กน้อย ใช้มือข้างเดียวกันกับฝั่งที่ลูกนั่งประคองที่ต้นคอและท้ายทอยลูก ส่วนมืออีกข้างหนึ่งประคองที่เต้านม
นอกจากเลือกท่าอุ้มที่คุณแม่ถนัดที่สุดแล้ว ก่อนอุ้มเบบี๋ทุกครั้ง อย่าลืมล้างมือให้สะอาด เพราะระบบภูมิคุ้มกันของทารกน้อยยังพัฒนาไม่เต็มที่ เชื้อโรคที่ติดอยู่ตามมือของคุณแม่อาจทำให้ลูกน้อยป่วยได้