ดูแลวัยซน ไม่ให้สายตาสั้นก่อนวัย

0

เด็กใส่แว่นอาจจะดูน่ารักน่าหยอก   แต่คงไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากเห็นลูกสายตาสั้น  มองไม่ชัด  และต้องสวมแว่นตั้งแต่เด็ก  เพราะนอกจากปัญหาสุขภาพสายตาแล้ว  ผลพวงที่ตามมา คือ เรื่องของค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอุปกรณ์ดูแลสายตา  แล้วยังส่งผลต่อบุคลิกภาพและโอกาสต่างๆ ในอนาคตของลูกอีก  ดังนั้นเรามาช่วยกันดูแลสุขภาพสายตาลูกรักกันตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่าค่ะ

short-sighted-in-kids

ดูแลถนอมดวงตาอย่างไร

 

ดูแลให้ถูกวิธี

การหมั่นดูแลเรื่องความสะอาด ทั้งเครื่องนอนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใบหน้า หรือดวงตาลูกอาจสัมผัส เช่น เปลี่ยนผ้ารองที่นอนหมอนที่ลูกหนุน หรือสังเกตว่า ดวงตาลูกมีขี้ตาออกมา ให้ทำความสะอาดโดยใช้สำลีชุบ น้ำต้มสุกอุ่น เช็ดจากหัวตาไปยังหางตา และควรเปลี่ยนสำลีก้อนใหม่เช็ดอีกข้าง สำหรับเล็บมือ เรื่องนี้ก็สำคัญ คุณแม่ควรตัดเล็บมือ ดูแลความสะอาดเป็นประจำด้วยเพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ค่ะ

 

ระวังอุบัติเหตุ

สถานที่ที่มีฝุ่น ควันเยอะ ๆ ลมแรง หรือแสงแดดจ้ามาก ๆ สถานที่เช่นนี้อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุกับดวงตาได้ง่าย ต้องเลี่ยงไว้ก่อนหรือหาทางปกป้อง รวมถึงสอนลูกไม่ให้แคะ แกะ เกา หรือทำอะไรกับดวงตาเมื่อมีอาการเกิดขึ้น เช่น คัน เป็นตุ่ม เพื่อความปลอดภัยต่อดวงตา เพราะอาจทำให้เป็นปัญหาอื่นตามมาได้

 

ใช้ดวงตาให้ถูกวิธี

เด็ก ๆ ไม่ควรใช้สายตาจับจ้องเป็นเวลานาน เช่น การอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ เล่นเกม ดูโทรทัศน์นานหลายชั่วโมง โดยเฉพาะการดูใกล้ ก็ถือว่าเป็นการใช้สายตามากเกินไป หรือเวลาอ่านหนังสือ ก็ควรอ่านในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพราะหากใช้สายตามาก ใช้สายตาผิดวิธี ก็อาจทำให้สายตาผิดปกติได้เร็วขึ้น

 

ตรวจสายตา

หากมีอะไรผิดปกติหรือสงสัยว่าดวงตาของลูกจะมีปัญหา เช่น ตาดำดูผิดปกติ, ตาลูกเหล่ (เป็นบางครั้งหรือว่าบางเวลา), หนังตาข้างใดข้างหนึ่งตกลงโดยเฉพาะภาวะติดเชื้อ มีขี้ตาสีเหลืองหรือสีเหลืองปนเขียวหรือหนังตาบวมแดงร่วมด้วย อาจมาจากฝุ่นละอองในอากาศ ไม่ควรนิ่งนอนใจรีบไปพบคุณหมอทันที เพื่อตรวจหาสาเหตุ ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นค่ะ

 

งดซื้อยาใช้เอง

ดวงตามีเนื้อเยื่อที่บอบบาง (ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย) ดังนั้น การใช้ยากับเด็กต้องปรึกษาคุณหมอ และระมัดระวัง อย่างมาก เช่น การใช้ยาหยอดตา คุณแม่ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนหยอดตา และขณะที่หยอดต้องระวังไม่ให้หยด แตะกับตาหรือขนตา เมื่อเปิดใช้แล้ว ควรเก็บยาไว้ในที่เย็นในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน สิ่งสำคัญคือไม่ควรใช้ยาหยอดตาร่วมกับผู้อื่น

นอกจากนี้การเลือกพืช ผัก ที่มีวิตามินเอสูง  ถั่วลิสง ถั่วชนิดต่าง ๆ  ตับ นม ไข่แดง ข้าวซ้อมมือ เต้าหู้ ซึ่งมี วิตามินบี 1  และวิตามินอี  มีคุณสมบัติช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี  ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการบำรุงสายตาของลูกเช่นกันค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *