อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุในเด็ก เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะเมื่อเด็กประสบอุบัติเหตุแนวโน้มในการเสียชีวิตจะมีมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากร่างกายของเด็กยังอ่อนแอและบอบบาง เพื่อรับมือกับความเสี่ยงไปดูสถิติกันดีกว่าว่า 10 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุของเด็ก ๆ มีอะไรบ้าง
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) รวบรวมสถิติข้อมูลเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุของเด็ก ๆ อายุระหว่าง 1-15 ปี ตลอดปี พ.ศ. 2559 พบว่า มีเด็กเจ็บป่วยฉุกเฉินทั้งสิ้น 156,525 คน
- เป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉินเกี่ยวกับกุมารเวชกรรมมากที่สุด คือ 56,101 คน
- อุบัติเหตุยานยนต์ 36,203 คน
- พลัดตกหกล้ม 15,245 คน
- ปวดท้อง ปวดหลัง เชิงกราน ขาหนีบ 14,113 คน
- ป่วย อ่อนเพลีย อัมพาตเรื้อรัง 12,659
- หัวใจหยุดเต้น 5,642 คน
- สัตว์กัด 3,141คน
- ชัก 2,617 คน
- ปวดศีรษะ ภาวะผิดปกติทางตา หู คอ จมูก 1,599 คน
- แพ้ยา แพ้อาหาร 1,579 คน
ทริคเพื่อความปลอดภัยของลูกวัยซน
- เมื่อพาเด็กโดยสารรถ ควรให้เด็กนั่งที่เบาะหลังและคาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนเด็กเล็กควรนั่งคาร์ซีท จะช่วยลดความรุนแรงหากเกิดอุบัติเหตุได้ ในกรณีที่ขี่จักรยานยนต์ ให้เด็กสวมหมวกนิรภัยขนาดที่เหมาะสมกับเด็ก เพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะได้รับการกระแทก การกระทบกระเทือนทางศีรษะอาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้
- เมื่อพาเด็กไปเล่นตามเครื่องเล่นต่าง ๆ หรือตามสนามเด็กเล่น ควรระวังการพลัดตกหกล้มของเด็ก สามารถป้องกันความเสี่ยงโดยเช็คความแข็งแรงของเครื่องเล่น อุปกรณ์ทุกชิ้นต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน มีความแข็งแรง ไม่ชำรุดหรือเสื่อมโทรมจนไม่น่าไว้ใจ และถ้าเครื่องเล่นที่มีความสูง ต้องมีราวกันตกหรือผนังกันตก เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการตก และก่อให้เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรง
- ใส่ใจเรื่องโภชนาการของเด็ก จัดเตรียมให้เด็กได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบหมวดหมู่ในปริมาณที่เหมาะสม จัดสรรเวลาให้เด็กได้ทำกิจกรรมทางกายและออกกำลังกาย รวมถึงดูแลเรื่องสุขภาพและสุขอนามัยของเด็ก หากพบว่ามีอาการเจ็บป่วยหรือผิดปกติใด ๆ ควรรีบพาไปพบแพทย์ ไม่ซื้อยาให้กินเอง
ทั้งนี้ เมื่อเด็กเกิดอาการบาดเจ็บ เช่น หัวกระแทกโดยตกจากที่สูง หรือกระแทกกับพื้นที่มีความแข็ง พ่อแม่ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากเด็กสลบ ไม่รู้สึกตัว ชัก ปวดศีรษะหรืออาเจียน ควรรีบพาไปพบแพทย์