แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในบ้านเราจะเป็น 0 อย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์โดยรวมก็ยังไม่น่าไว้วางใจ การป้องกันตนเอง สวมหน้ากาก งดกิจกรรมนอกบ้านจึงยังจำเป็นสำหรับทุกคน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นเท่าตัว เพราะวัยนี้มีภูมิต้านทานค่อนข้างต่ำจึงมีความเสี่ยงสูง
แม้ผู้สูงอายุไม่ได้มีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 สูงเหมือนวัยอื่น โดยวัยทำงานมีความเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าจากการออกไปสถานที่ต่าง ๆ และนำเชื้อจากนอกบ้านมาติดผู้สูงอายุในบ้าน แต่ผู้สูงอายุเมื่อติดเชื้อมีโอกาสเสี่ยงเสียชีวิตสูงกว่าวัยอื่นมาก เนื่องจากผู้สูงอายุมีภูมิต้านทานค่อนข้างต่ำและส่วนใหญ่มักมีโรคประจำตัว โรคโควิด-19 สามารถไปได้ในทุกอวัยวะ ก็จะไปทำให้ภาวะโรคเดิมของผู้สูงอายุแย่ลง และทำให้เสียชีวิตได้
ผู้สูงอายุควรดูแลตัวเองในช่วงโควิด-19 ระบาด ดังนี้
- ล้างมือบ่อยขึ้น หากออกจากบ้านต้องแอลกอฮอล์เจล
- ไม่สัมผัสใบหน้า
- กินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว แยกสำรับ และของใช้ส่วนตัว
- งดออกจากบ้านหากไม่จำเป็น
- สวมหน้ากาก
- เว้นระยะห่างผู้อื่น 2 เมตร
- ติดต่อบุตรหลานช่องทางอื่น เช่น โทรศัพท์ แทนการไปพบ
ส่วนคนในครอบครัวจะดูแลผู้สูงอายุได้อย่างไร สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
- อยู่บ้านเดียวกันและไม่ได้ทำงานนอกบ้าน ต้องล้างมือบ่อย ๆ แยกสำรับอาหาร ทำความสะอาดบ้านเพิ่มขึ้น ส่วนการซักล้างใช้น้ำยาทำความสะอาดได้ตามปกติ เช่น น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอกซักผ้า ระบายอากาศเปิดหน้าต่างในช่วงแดดออก เพื่อระบายความชื้นจากฝนตกในช่วงนี้ ดูแลเรื่องยาประจำตัวผู้สูงอายุ
- บุตรหลานต้องออกนอกบ้าน ต้องสวมหน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อย ๆ ระวังจุดสัมผัสต่าง ๆ เว้นระยะห่างตัวเอง เลี่ยงไปพื้นที่แออัด เสร็จภารกิจแล้วกลับบ้านเลย กลับมาต้องล้างมือ อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า จึงอยู่ร่วมกับผู้สูงอายุในบ้านได้
นอกจากนี้สมาชิกในบ้านควรช่วยกันดูแลผู้สูงอายุโดยการจัดหาหน้ากากอนามัยให้สวมใส่เมื่อต้องออกนอกบ้าน เฝ้าระวังไม่ให้ผู้อื่นมาแพร่เชื้อด้วยการรักษาระยะห่าง หมั่นเตือนให้ล้างมือบ่อย ๆ หมั่นเตือนไม่ให้ใช้มือสัมผัสใบหน้า จัดแยกสำรับกับข้าวและของใช้ส่วนตัวออกจากคนในบ้าน
สถานที่แนะนำสำหรับผู้สูงอายุหากต้องออกไปข้างนอก คือ
- อย่าเดินทางไกลมากจากบ้าน เช่น ศาสนสถานใกล้บ้าน ซื้อของร้านใกล้บ้าน ร้านอาหารใกล้บ้าน
- เลี่ยงพื้นที่แออัด เลือกพื้นที่เปิดโล่ง จะปลอดภัยขึ้น
- ใช้เวลานอกบ้าน 1-2 ชั่วโมง โดยสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง แล้วกลับเข้าบ้าน อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า
นอกจากดูแลทางกายแล้ว อย่าลืมให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพจิตใจของผู้สูงอายุด้วย โดยวิธีเยียวยาใจผู้สูงอายุให้มีความสุขมากขึ้นเมื่อต้องกักตัวอยู่แต่ที่บ้าน เช่น ชวนพูดคุย ชวนทำกิจกรรมร่วมกัน (อาทิ ออกกำลังกาย ดูหนัง นั่งสมาธิ)