เด็ก 12-18 ปี เสี่ยงติดโควิดเพิ่มขึ้น ครอบครัวต้องเฝ้าระวัง

0

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ยังคงพบผู้ป่วยติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น โดยกลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุ 12-18 ปี พบติดเชื้อรายใหม่ในสัปดาห์แรกเดือนสิงหาคม จำนวน  7,787 คน และในสัปดาห์ที่ 2 เพิ่มขึ้นเป็น 8,733 คน

จากข้อมูลทะเบียนราษฎร์ประเทศไทยมีเด็กและวัยรุ่นอายุ 12-18 ปี จำนวน 5,196,248 คน พบติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ 1 เมษายน–14 สิงหาคม 2564 จำนวน 41,832 คน คิดเป็นร้อยละ 0.8 ในจำนวนนี้เสียชีวิต 8 คน ซึ่งทุกคนเป็นกลุ่มเด็กป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น พิการทางสมอง มะเร็ง และหัวใจ เป็นต้น

ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครองที่ดูแลเด็กและวัยรุ่นอายุ 12-18 ปี ที่เป็น 7 กลุ่มโรคเสี่ยง และมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย สามารถให้เด็กเข้ารับบริการฉีดวัคซีนตามที่ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยแนะนำได้ เป็นวัคซีนชนิด mRNA และที่มีใช้ในประเทศไทยในขณะนี้ คือ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของ Pfizer-BioNTech โดยก่อนไปรับบริการให้สอบถามและประสานนัดหมายกับสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลที่ประกาศให้บริการในพื้นที่นั้น ๆ

สำหรับกลุ่มผู้ป่วยเด็กที่มีโรคประจําตัวที่มีความเสี่ยงของโรคโควิด-19 ที่รุนแรง ได้แก่ โรคอ้วน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ โรคเบาหวาน และกลุ่มโรคพันธุกรรมรวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง เด็กที่มีพัฒนาการช้า

การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโควิด-19 ของกลุ่มเด็กวัยเรียน วัยรุ่น มีดังนี้

1. เว้นระยะห่างทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน และจำกัดการเดินทางเท่าที่จำเป็น และไม่ไปในที่ที่มีคนหนาแน่น เมื่อกลับถึงบ้านควรอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที 

2. สวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นเฉพาะเวลากินอาหาร และไม่กินอาหารร่วมกัน พร้อมทั้งงดการรวมกลุ่มกับเพื่อน เปลี่ยนเป็นการติดต่อผ่านโทรศัพท์ หรือผ่านระบบออนไลน์แทน 

3. หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ

4. ประเมินความเสี่ยงตนเองผ่าน “ไทยเซฟไทย” ทุกวัน หากพบมีความเสี่ยงสูงให้แจ้งพ่อแม่ ผู้ปกครองทันที

สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรดูแลลูกวัยรุ่นด้วยการใช้เวลาตามลำพังกับลูก โดยจัดเวลาอยู่กับลูกประมาณ 20 นาที หรือมากกว่า (อาจเป็นเวลาเดิมของทุกวันเพื่อให้ลูกตั้งตาคอย) ถามลูกว่าอยากทำอะไร ซึ่งการได้เลือกจะทำให้ลูกมั่นใจมากขึ้น ตัวอย่างกิจกรรมที่สามารถทำได้กับลูกวัยรุ่น เช่น คุยกันเรื่องที่ลูกชอบ ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี กีฬา หนัง ละคร ดารา เพื่อน, เดินเล่นรอบบ้าน, เปิดเพลงที่ลูกชอบและออกกำลังกายไปด้วยกัน

การใช้เวลาตามลำพังกับลูก ทำให้ลูกรู้สึกว่ามีคนรักและห่วงใย รู้สึกปลอดภัยและทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญ และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมก้าวผ่านอุปสรรคจากโรคโควิด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *