พูดถึงเรื่องการลดน้ำหนักนี่คงไม่มีสาวๆ คนไหนไม่เคยผ่านประสบการณ์นี้มาก่อนอย่างแน่นอน ยกเว้นแต่ว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่โชคดีเรื่องเมตาบอลิซึ่มดีเกินร้อยมากประเภท “นั่งกินทั้งวันฉันก็ยังไม่อ้วน” แต่กลับมาที่ความจริงกันเถอะว่า… จำนวนคนที่โชคดีเหล่านั้นมีไม่ถึง 1 ใน 10 ด้วยซ้ำ!
ดังนั้น เพื่อนำมาซึ่งแรงบันดาลใจใหม่ผนวกกับความต้องการที่จะรวบรวมเอาทุกประสบการณ์ที่มีของตัวเองมาแลกเปลี่ยนกัน ‘คุณผึ้ง อรรยา ติกปัญญาวงศ์’ หญิงสาวร่างเล็กอารมณ์ดีจึงเกิดไอเดียสร้างคอมมูนิตี้ดีๆ ที่จะเปิดเผยทุกแง่มุมของคนไม่อยากอ้วนกับแฟนเพจที่มีชื่อว่า “กลัวอ้วน” โดยปัจจุบันมีผู้เข้ามากดไลค์ติดตามมากกว่าแสนคนเลยทีเดียว
“เริ่มจากการเขียนบล็อคของตัวเองเพื่อแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักของตัวเองผ่าน noopueng.bloggang.com ทำให้มีคนติดตามเราเยอะพอสมควร เลยทำเพจกลัวอ้วนขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องลดน้ำหนักเบื้องต้นอย่างถูกวิธี ให้กำลังใจ รีวิวลดน้ำหนักด้วยตัวเอง”
คุณผึ้งบอกถึงที่มาของ “กลัวอ้วน” ก่อนที่เราจะตามเข้าไปในบล็อคพร้อมกับเห็นข้อมูลที่บอกว่า เธอเคยมีน้ำหนักถึง 64 กิโลกรัม ส่วนสูง 146 เซนติเมตร แต่ก็สามารถลดลงกว่า 20 กิโลกรัมได้ภายในเวลา 1 ปี
เราไปทำความรู้จักพร้อมกับเรียนรู้แรงฮึดของคน “กลัวอ้วน” จากเธอกัน!
จุดเริ่มต้นของการลดความอ้วน
“จริงๆ ก่อนหน้านี้ตั้งใจลดน้ำหนักมานับหลายสิบครั้งแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ พออายุมากขึ้นมีเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่ทำให้ตัวเองเสียใจและขาดความมั่นใจ รวมถึงสุขภาพที่เริ่มแย่ลงเพราะเรามีน้ำหนักเกิน เลยตั้งใจจริงๆ ที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีและเพื่อเรียกความมั่นใจในตัวเองกลับมาค่ะ”
สิ่งที่ผิดที่สุดของการ “กลัวอ้วน”
“เคยกินยาลดความอ้วนอยู่หลายปี ทำให้สมองเบลอ หวาดกลัวอยู่พักนึง น้ำหนักลดลงเยอะในช่วงแรกๆ หลังจากนั้นก็ไม่ลด พอไม่ได้กินยาต่อน้ำหนักก็เด้งขึ้นเป็นเท่าตัวค่ะเพราะไม่ควบคุมอาหาร ไม่คิดจะออกกำลังกาย บอกเลยว่าเข็ดขยาด
เคยกินยาถ่ายหนักสุด 4 เม็ดต่อวัน เพราะคิดว่าถ้าเรากินๆ แล้วถ่ายยังไงน้ำหนักก็ไม่ขึ้น จนกระทั่งดื้อยา ทาน 4 เม็ดต่อวันก็ไม่ได้ผล ทำให้ต้องย้อนกลับมาถามตัวเองว่า เราต้องพึ่งยาถ่ายไปตลอดเลยชีวิตเลยเหรอ?
จากนั้นก็หักดิบ หันมาทานผักผลไม้เพิ่มมากขึ้น ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรขึ้นไป และออกกำลังกายเพื่อช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะขับถ่ายเองได้ค่ะ”
เคสที่เจอแล้วรู้สึกว่าแย่ที่สุด
“เคยเจออยู่ 2-3 เคส ปัญหาเดียวกันค่ะ คือ เข้าข่ายโรคอะนอเร็กเซีย (โรคคลั่งผอม) พวกเขาปฎิเสธการกินอาหาร และคิดว่าตัวเองอ้วนอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่มีรูปร่างสมส่วนแล้ว ผึ้งก็ให้กำลังใจและแนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางค่ะ”
คิดยังไงกับคนที่ชอบบ่นว่าอ้วนแต่ก็ยังกินอยู่
“คิดว่าเค้ายังไม่อยากผอมจริงๆ ค่ะ เพราะถ้าคุณต้องการลดความอ้วนจริงๆ มันจะมีแรงฮึดไม่รู้มาจากไหน ในการควบคุมอาหาร รู้ว่าอะไรที่กินแล้วอ้วนไม่อ้วน และพยายามหาเวลาออกกำลังกาย ตั้งใจเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดี”
วิธีที่ดีที่สุดของการเอาชนะความอ้วนคือ?
“ควบคุมอาหาร + ออกกำลังกาย + เอาชนะใจตัวเอง ค่ะ”
มุมมองในเรื่องของสุขภาพและเทรนด์การลดความอ้วนในปัจจุบัน
“คิดว่าในอดีตคนยังไม่ให้ความสนใจเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพมากนัก จนถึงปัจจุบันนี้ ลักษณะการกินและการดำเนินชีวิตของเราต่างมีความเสี่ยงเข้าใกล้กับโรคอ้วนหรือโรคร้ายต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันคนส่วนใหญ่จึงหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีค่ะ
แต่เดี๋ยวนี้คนฉลาดขึ้นนะ หันมาศึกษาวิธีลดความอ้วนด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี คนส่วนมากเขาเข้าใจมากขึ้นว่าจะลดความอ้วนได้นั้นต้องพึ่งตัวเอง มีเงินอย่างเดียวก็ซื้อความผอมไม่ได้ เทรนด์ของการกินคลีน รวมไปถึงหนุ่มสาวที่ออกกำลังกาย เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ มีกล้าม มีซิกแพคนิดๆ ก็เป็นเทรนด์ที่น่าจับตามอง”
และนี่ก็คืออีกหนึ่งสาวที่สามารถพาตัวเองก้าวผ่านคำว่า “อ้วน” ได้อย่างน่าทึ่ง โดยคุณผึ้งได้กล่าวทิ้งท้ายไว้กับ HealthandTrend.com
“เพจและเว็บไซต์เป็นสิ่งที่ผึ้งตั้งใจทำ เพื่อแชร์เทคนิคดีๆ เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ต้องการลดความอ้วน คุณจะไม่ได้อยู่คนเดียวแน่ๆ ในโมเม้นนี้ :)”
ส่วนใครที่อยากติดตามผลงานของคุณผึ้งสามารถติดตามได้ที่เพจกลัวอ้วนและ www.fearfatclub.com