แม้เราจะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เป็นเด็กน้อยว่าหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้งต้องล้างมือให้สะอาด แต่เพราะความเร่งรีบ ความมักง่าย หรือความประมาท ทำให้หลายคนละเลยการดูแลสุขอนามัยพื้นฐานนี้ แต่ใครจะรู้ว่าผลลัพธ์อาจทำให้คุณได้รับเชื้อโรคที่เป็นอันตรายถึงขั้นเจ็บป่วยล้มหมอนนอนเสื่อได้เลยทีเดียว
ในร่างกายของเรา มือสามารถนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย มีโรคติดเชื้อมากมายที่สามารถติดต่อผ่านการสัมผัส ตัวอย่างโรคที่พบบ่อย ได้แก่
- โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด วัณโรค ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก โรคหัด หัดเยอรมัน นอกจากจะติดต่อผ่านการหายใจเอาเชื้อเข้าไปแล้ว การที่มือไปสัมผัสกับสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้ร่วมกับบุคคลอื่น หรือเครื่องใช้ในที่สาธารณะ แล้วมาสัมผัสจมูก เชื้อโรคก็จะเข้าสู่โพรงจมูก เมื่อหายใจเข้าไป ก็ทำให้เกิดโรคได้
- โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย โรคอุจจาระร่วง โรคตับอักเสบชนิดเอ โรคบิด อหิวาตกโรค โรคพยาธิชนิดต่างๆ ซึ่งติดต่อได้จากการที่มือปนเปื้อนเชื้อเหล่านี้ แล้วหยิบจับอาหารรับประทานเข้าไป
- โรคติดต่อทางการสัมผัสโดยตรง เช่น โรคตาแดง โรคเชื้อรา แผลอักเสบที่ผิวหนัง หิด เหา โรคเริม
- โรคที่ติดต่อได้หลายทาง เช่น โรคอีสุกอีใส อาจติดต่อได้จากการหายใจ และการสัมผัส
ข้อมูลจากองค์การยูนิเซฟ พบว่า แต่ละปีมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วโลก เสียชีวิตจากโรคอุจจาระร่วงประมาณ 3.5 ล้านคน ส่วนประเทศไทย สำนักระบาดวิทยารายงานตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 30 ก.ย. 2558 มีผู้ป่วยอุจจาระร่วง 828,206 คน เสียชีวิต 7 คน และมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 51,546 คน เสียชีวิต 25 คน
ผลการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า การล้างมืออย่างถูกวิธีเพียง 15 วินาที สามารถลดเชื้อโรคได้ถึงร้อยละ 90โดยทริคง่ายๆ ในการล้างมือเพื่อให้การป้องกันโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น คือ การยึดหลักล้าง “2 ก่อน 5 หลัง” คือ ก่อนรับประทานอาหาร ก่อนเตรียมหรือปรุงอาหาร ล้างเข้าห้องน้ำ หลังหยิบจับ สัมผัสสิ่งสกปรก หลังเยี่ยมผู้ป่วย หลังสัมผัสสัตว์เลี้ยง และหลังจากกลับจากนอกบ้าน