วิตามินอีนอกเหนือจากจะเป็นที่รู้จักในฐานะวิตามินผู้ปกป้องร่างกายแล้ว ยังมีบทบาทในการเป็นยารักษาโรค ช่วยกวาดล้างสารอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ มากมายในด้านความสวยความงามก็จัดได้ว่าเป็นวิตามินที่ถูกนำมาใช้มากตัวหนึ่งในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เรียกว่าประโยชน์มาเต็มเชียวล่ะ
วิตามินอี (Vitamin E) หรือ โทโคเฟอรอล (Tocopherol) เป็นวิตามินที่ละลายได้ดีในไขมัน จัดเป็นหนึ่งในวิตามินที่สำคัญที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับหน้าที่สำคัญที่สุดของวิตามินอี คือ
เป็นตัวแอนติออกซิแดนท์ ทำให้เกิดการเผาผลาญ เป็นตัวช่วยไขกระดูกในการสร้างเลือด
ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดและการอุดตันของเส้นเลือดวิตามินอีช่วยบำรุงตับ, ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ เซลล์ประสาท และกล้ามเนื้อทำงานได้ตามปกติ, ช่วยให้ผิวหนังสดใส และช่วยสมานแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก, ช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้น ไม่อ่อนเพลียง่าย
ปริมาณที่แนะนำ
– ควรกินวิตามินอีเสริม ขนาดเม็ดละ 400 I.U. วันละ 2 เม็ด เช้า-เย็น
– ไม่ควรกินในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจเกิดความดันโลหิตสูงได้ในบางราย วิธีแก้อาการดังกล่าวคือ ควรกินในปริมาณ 100 I.U. ก่อน แล้วจึงเพิ่มปริมาณเป็น 200 I.U. และ 400 I.U. ตามลำดับ
– หากกินเหล็กและวิตามินอีพร้อมกัน จะเกิดภาวะที่ร่างกายไม่สามารถดูดวึมวิตามินอีได้ วิธีแก้คือ ควรแยกกินวิตามินอีก่อนธาตุเหล็ก 8-12 ชั่วโมง
วิตามินที่ร่างกายได้รับส่วนใหญ่มาจากอาหารที่เราทานเข้าไป และส่วนหนึ่งร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเอง วิตามินที่ดีจึงต้องสกัดจากอาหาร ถึงอย่างไร เราก็ไม่กินวิตามินแทนอาหาร และวิตามินก็ไม่ใช่ยา แต่เป็นสารสกัดจากสิ่งมีชีวิตที่จำเป็นสำหรับร่างกาย มีหน้าที่ช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ถูกต้อง และช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้
