“พาราเซตามอล” ใช้อย่างไรให้ได้ผลและปลอดภัยที่สุด

0

เป็นยาสามัญประจำบ้านที่หลายคนคุ้นเคยกันดีและน่าจะมีโอกาสใช้รักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยกันมาบ้างไม่มากก็น้อยสำหรับ… “ยาพาราเซตามอล” ที่มีสรรพคุณในการแก้ปวดลดไข้ เป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายหาซื้อได้ง่าย และค่อนข้างปลอดภัยเมื่อใช้อย่างถูกวิธี ว่าแต่ใช้อย่างไรล่ะถึงจะเป็นการใช้ยาพาราเซตามอลอย่างถูกวิธี??

“ยาพาราเซตามอล” (Paracetamol)

หรือ “อะเซตามิโนเฟน” (acetaminophen)เป็นยาสามัญประจำบ้านที่ผู้บริโภคสามารถซื้อได้เองโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา สรรพคุณของยาชนิดนี้คือ ใช้บรรเทาอาการปวดระดับอ่อนถึงปานกลาง ลดไข้ บรรเทาอาการปวดศีรษะ ปวดประจำเดือนให้กินยานี้ เป็นครั้งคราวเวลามีไข้สูง ปวดศีรษะ หรือปวดเมื่อยมาก พาราเซตามอลเป็นยาที่ควรเลือกใช้เป็นอันดับแรกในการบรรเทาอาการปวดต่างๆ เนื่องจากเกิดอาการข้างเคียงในระบบทางเดินอาหารได้ต่ำกว่ายาแก้ปวดชนิดอื่น

Paracetamol

แม้พาราเซตามอลจะมีฤทธิ์บรรเทาปวดได้หลายอย่างจนเหมือนจะรักษาปวดได้ครอบจักรวาล แต่อย่างไรก็ตามมีอาการปวดบางชนิดที่พาราเซตามอลไม่มีผลรักษาหรืออาจไม่ใช่ยาที่เหมาะสม เช่นอาการปวดขั้นรุนแรง (พาราเซตามอลมีฤทธิ์ลดอาการปวดจำกัด รักษาได้เพียงอาการปวดขั้นอ่อนถึงปานกลางเท่านั้น), อาการปวดที่มีลักษณะอาการแบบแปลกๆ (เช่น ปวดแสบปวดร้อน ปวดเหมือนเข็มเล็กๆทิ่มแทง ปวดเหมือนไฟช๊อต ปวดร่วมกับอาการชา), อาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ขนาดของยาพาราเซตามอลที่แพทย์แนะนำสำหรับผู้ใหญ่ กินครั้งละ 1 เม็ด (ขนาด500 มก.) ซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง หากมีไข้สูงจัดหรือปวดมากให้กินครั้งละ 2 เม็ด หลังจากทุเลาให้ลดเหลือครั้งละ 1 เม็ด โดยรวมแล้วใน 1 วันห้ามกินเกิน 8 เม็ดส่วนในเด็ก (อายุต่ำกว่า 12 ปี) กินครั้งละ 10-15 มก. ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. ซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง สูงสุดไมเกิน 5 ครั้งต่อวันไม่ควรรับประทานยามากกว่าขนาดที่แนะนำที่ระบุไว้บนฉลากยา และไม่ควรรับประทานยาติดต่อกันนานมากกว่า 5 วัน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ระหว่างที่มีการใช้ยา ผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคตับ ผู้ที่มีการดื่มแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ หรือมีการใช้ยาอื่นๆ ร่วมด้วย ควรทำการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการใช้ยานี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *