เรามักคิดว่า ถ้าเลิกสูบบุหรี่แล้ว = เราจะไม่เป็นมะเร็งปอด ข่าวร้ายก็คือมะเร็งยังคงพัฒนาในร่างกายของเรา แม้ว่าจะเลิกสูบบุหรี่ไปแล้ว แต่ข่าวดีในอีกมุมหนึ่ง ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดจะหยุดลงหลังจาก 5 ปีของการเลิกบุหรี่!
นี่คือผลการค้นพบที่สำคัญจากการวิเคราะห์ใหม่ของการศึกษา Framingham Heart Sercem โดยนักวิจัยจาก Vanderbilt University Medical Center ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารโรคมะเร็งแห่งชาติในวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา (2018)
“ถ้าตอนนี้คุณยังสูบบุหรี่อยู่ นี่คือเวลาที่ต้องเลิกแล้วล่ะ”
Hilary Tindle ศาสตราจารย์แพทยศาสตรบัณฑิตที่ Vanderbilt University School of Medicine และผู้อำนวยการ Vanderbilt ศูนย์ยาสูบติดยาเสพติดและไลฟ์สไตล์ ได้กล่าวไว้
การศึกษาในปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมประชุม 8,907 รายที่ติดตามมานานกว่า 25 ถึง 34 ปี ในช่วงเวลานี้ พบผู้เป็นโรคมะเร็งปอดร้อยละ 93 ของที่เกิดขึ้นในหมู่ผู้สูบบุหรี่หนัก ผู้ที่ได้สูบบุหรี่อย่างน้อยหนึ่งซองต่อวันเป็นเวลา 21 ปีหรือมากกว่า
และนี่คือความน่าสนใจจากการศึกษานี้
- 5 ปีหลังจากเลิกสูบบุหรี่ ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดในผู้สูบบุหรี่รายเดิมลดลง 39% เมื่อเทียบกับผู้สูบบุหรี่ในปัจจุบัน
- 25 ปีหลังจากเลิกสูบบุหรี่ ความเสี่ยงมะเร็งปอดของพวกเขายังคงสูงกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่
โดยการศึกษาของ Framingham เป็นเรื่องที่ไม่เหมือนใครเพราะได้ถามผู้คนเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ทุก 2-4 ปี และมีตัวเลขเพิ่มหรือลดการสูบบุหรี่เมื่อเวลาผ่านไปและ ศาสตราจารย์ Hilary ยังไได้กล่าวเพิ่มเติมว่า
“เราต้องตระหนักว่าความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอดยังคงสูงขึ้นมานานหลายทศวรรษ แม้ว่าการศึกษาจะไม่สามารถพูดเกินจริงเกี่ยวกับมันได้ แต่กลุ่มคนที่เคยสูบบุหรี่หนักยังคงต้องกังวลเกี่ยวกับโรคร้ายอย่างมะเร็งปอดต่อให้พวกเขาเลิกสูบไปแล้วก็ตาม ผ่านการตรวจสุขภาพเป็นประจำ”
แบบนี้แล้ว… เพื่อนๆ สนใจที่จะเลิกบุหรี่กันแล้วหรือยัง?