หอม หวาน มัน อร่อย แถมยังเย็นชื่นใจ ไม่แปลกที่ “บิงซู” หรือน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลี จะเป็นของหวานที่ฮอตฮิตมากๆ ในบ้านเรา แต่รู้หรือไม่คะว่าการกินบิงซูร่วมในถ้วยเดียวเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อผ่านทางน้ำลาย อาทิ ไข้หวัด วัณโรค ไวรัสตับอักเสบเอ ที่สำคัญหากกินบ่อยๆ ยังเสี่ยงหุ่นพังเพราะแคลอรี่สูงปรี๊ด
ข้อมูลจาก กองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า
ปัจจุบันน้ำแข็งไสเป็นอาหารยอดนิยมสำหรับกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ทั้งน้ำแข็งไสแบบไทยที่มีขนมหวานอยู่ข้างใต้ มีน้ำแข็งโปะ และราดน้ำสีต่างๆ พร้อมด้วยนมข้นหรือน้ำกะทิ และน้ำแข็งไสแบบเกาหลี หรือที่รู้จักว่า “บิงซู” ซึ่งเป็นน้ำแข็งปั่นละเอียดและราดด้วยท็อปปิ้ง นิยมใช้ช้อนตักกินร่วมกันในถ้วยเดียว
อย่างไรก็ตาม น้ำแข็งไสบิงซูเป็นขนมหวานที่มีปริมาณแคลอรีที่สูงมากถึง 300-750 กิโลแคลอรี ขณะที่ข้าวเหนียวทุเรียนและมะม่วง 365-450 กิโลแคลอรี และฮันนีโทสต์ 300-700 กิโลแคลอรี เมื่อเทียบจากปริมาณอาหารเท่ากันที่ 100 กรัม นอกจากนี้ การกินร่วมในถ้วยเดียวยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อผ่านทางน้ำลาย ได้แก่ หวัด ไข้หวัดใหญ่ คอตีบ คางทูม โปลิโอ วัณโรค ไวรัสตับอักเสบเอ ซาร์ส เป็นต้น
นอกจากนี้ น้ำแข็งที่กิน หากเกิดจากการผลิตและจำหน่ายที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทั้งสถานที่ผลิต จำหน่าย ภาชนะ อุปกรณ์ วัตถุดิบและตัวอาหาร รวมทั้งผู้สัมผัสอาหาร อาจทำให้มีเชื้อจุลินทรีย์ อีโคไล และเชื้อจุลินทรีย์ซาโมเนลลา ที่เป็นสาเหตุของโรคท้องร่วง
ทริคในการกินบิงซูเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
- สั่งบิงซูถ้วยเล็กขนาดกินคนเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงการกินบิงซูร่วมกัน ลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางน้ำลาย
- เลือกบิงซูชนิดที่ทำร้ายสุขภาพน้อยที่สุด เช่น เลือกท็อปปิ้งหน้าผลไม้สด
- รับประทานแต่น้อย หากวันไหนรับประทานบิงซู มื้ออื่นๆ ควรเน้นอาหารจำพวกผัก ส่วนเนื้อสัตว์ควรเลือกปลา และออกกำลังกายเพื่อเผาพลาญไขมันส่วนเกินไม่ให้สะสม
- เลือกร้านที่สะอาด ได้มาตรฐาน โดยสังเกตว่าน้ำแข็งจากร้านที่ใช้บริการสะอาดเพียงพอหรือไม่ ท็อปปิ้งไม่ดูเก่า นมไม่มีกลิ่นเปรี้ยวหรือบูด หรือมีอุปกรณ์ปกปิดอาหารป้องกันสัตว์และแมลง เป็นต้น
นอกจากนี้ ควรสังเกตสุขลักษณะของพนักงานในร้านด้วยนะคะ โดยเฉพาะคนทำบิงซูควรใส่หมวกคลุมผม ผ้ากันเปื้อน หน้ากากปิดจมูก และสวมถุงมือ เพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อนจากร่างกายสู่บิงซูค่ะ