ธุรกิจความงามเป็นธุรกิจอันดับ 1ที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คอนเฟิร์มว่าธุรกิจประเภทนี้ยึดตำแหน่งนัมเบอร์วันติดต่อกันเป็นปีที่ 6 ในปี 2560ปัญหาที่ตามมาก็คือคลินิกเสริมความงามผุดขึ้นมาราวดอกเห็ด บางที่ก็ไม่ได้มาตรฐานจึงทำให้ลูกค้าบางรายหน้าพัง
ความที่ธุรกิจความงามมีมากมายหลายเจ้าให้เลือกแต่งเติมเสริมสวย ทำให้แต่ละที่ต่างแข่งขันกันจัดโปรโมชั่นเพื่อมัดใจลูกค้า โดยมักชูจุดขายด้วยราคาที่ต่ำกว่า ของถูกใครๆ ก็ชอบ ไม่แปลกที่หลายคนอาจตัดสินใจซื้อคอร์สความงามโดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลก่อน ทำให้เสี่ยงรับบริการจากผู้ที่ไม่มีความรู้ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ทำให้เกิดผลเสีย ทั้งติดเชื้อ อักเสบ เสียโฉมซึ่งยากต่อการแก้ไขให้กลับมาเหมือนเดิม สร้างความทุกข์ทรมานในการดำเนินชีวิต
ข้อควรระวังก่อนที่จะมีการตกลงซื้อคอร์สความงาม คือ อย่าด่วนตัดสินใจซื้อ ขอให้พิจารณาอย่างรอบด้าน และต้องตรวจสอบมาตรฐานบริการทั้งแพทย์ และสถานพยาบาลว่ามีการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยแนะนำให้ไปตรวจสอบสถานพยาบาลจริงด้วยตนเอง จะต้องมีหลักฐานครบถ้วน ดังนี้
- มีการแสดงป้ายชื่อ และเลขที่ใบอนุญาต 13 หลักที่หน้าสถานพยาบาล
- มีการแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
- ใบชำระค่าธรรมเนียมสถานพยาบาลเป็นปีปัจจุบัน
- มีป้ายแสดงอัตราค่าบริการชัดเจน พร้อมมีจุดให้สอบถามอัตราค่าบริการ
ควรตรวจสอบชื่อสถานพยาบาลซ้ำที่เว็บไซต์สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (สพรศ.) โดยพิมพ์ชื่อสถานพยาบาลเป็นภาษาไทย หากปรากฏชื่อสถานพยาบาลดังกล่าวแสดงว่าได้มาตรฐานจริง ในส่วนของแพทย์ จะต้องแสดงหลักฐานการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ เช่น ชื่อ – นามสกุล และรูปถ่ายที่หน้าห้องตรวจในใบผู้ประกอบวิชาชีพต้องตรงกับแพทย์ผู้ให้บริการในขณะนั้น และก่อนรับบริการตามที่นัดหมายทุกครั้ง ขอให้ตรวจสอบชื่อแพทย์ที่เว็บไซต์แพทยสภา อีกครั้งพร้อมอ่านข้อมูลโดยละเอียด
หากไม่พบหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งแสดงว่าสถานพยาบาลแห่งนั้นอาจใช้หมอเถื่อนให้บริการ ขอให้งดรับบริการ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับคุณได้